พันธมิตรธุรกิจซอฟต์แวร์หรือบีเอสเอ (BSA) ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้ชุดปราบปรามของกองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ประกาศเส้นตายล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบัน บก.ปอศ.กำลังดำเนินการสืบสวนและเข้าตรวจค้นองค์กรธุรกิจที่มีเบาะแสว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไปแล้วกว่า 1,000 แห่ง ตามที่ได้รับร้องเรียนจากเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
บก.ปอศ. ยืนยันว่าขั้นตอนการตรวจจับนั้นไม่มีการโทรศัพท์เพื่อเตือนก่อนการตรวจค้นแน่นอน การตรวจค้นในที่รโหฐานก็จะต้องมีหมายค้น มีการแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นถ้ามีผู้แอบอ้างดังกล่าว ผู้ประกอบการสามารถที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่ใกล้ที่ทำการของท่านดำเนินการตามกฎหมายได การเตือนเรื่องตรวจจับซอฟต์แวร์เถื่อนในองค์กรที่ไม่ใช่การล่อลวงมักเป็นการเตือนภัยทางอีเมล จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากบีเอสเอ หรือจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) ซึ่งส่งอีเมลเตือนสมาชิกองค์กรให้รับรู้กำหนดการตรวจจับจริงจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งหมดนี้ไม่มีข้อเรียกร้องใดๆยกเว้นการทำให้บริษัทองค์กรตื่นตัวและหันไปใช้ซอฟต์แวร์ถูกลิขสิทธิ์ หรือซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สต่อไป
"ในกระบวนการบังคับใช้กฎหมายจะไม่มีการข่มขู่หรือเรียกร้องเงินหรือหาประโยชน์อื่นใดอย่างเด็ดขาด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนและตรวจค้นการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในองค์กรธุรกิจใดก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บหลักฐาน ขอดูใบอนุญาตซอฟต์แวร์และถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้ เพื่อทำสำนวนการสอบสวนว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์หรือไม่อย่างไร ก่อนที่จะสรุปสำนวนสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ และนำคดีขึ้นสู่ศาลต่อไปหรือถ้ามีกรณีถอนคำร้องทุกข์อำนาจสอบสวนก็สิ้นสุดลง" ตามข้อความในหนังสือประชาสัมพันธ์จาก บก.ปอศ.