วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วิธีรวย

  1. ซื้อสินทรัพย์ อย่าซื้อหนี้สิน รถยนต์คือหนี้สิน ยกเว้นนำมาใช้หารายได้อย่างคุ้มค่าเป็นล่ำเป็นสันก็จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ที่คุ้มต้นทุน
  2. ควบคุมกระแสเงินสดให้เป็น รายได้->รายจ่าย->สินทรัพย์->รายได้->รายจ่าย->สินทรัพย์->so on ไม่ควรเป็น รายได้->รายจ่าย->หนี้สิน 
  3. ไม่ติดกับดักการทำงานหนักแล้วไม่รวย
  4. เปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมการสร้างรายได้จาก do more get more เป็นปรัชญา Do Less Get More
  5. ถ้าไม่มีเวลาหรือไม่ชำนาญไม่ควรเล่นหุ้นเอง ควรใช้กองทุนรวม
  6. ทำลายความกลัวการสูญเสียเงินที่หามายากลำบาก ไม่มีคนประสบความสำเร็จคนไหนไม่เคยล้มเหลว ปรับแนวคิด high risk high return ให้เป็นสายกลางโดยยอม take risk บ้างแต่ในระดับที่ยอมรับได้หากพลาดพลั้ง เริ่มต้นเรียนรู้ด้วยก้าวเล็กๆ ก่อน
  7. กู้เงินในวงเงินที่แท้จริงเรายังรับภาระได้มาซื้อสินทรัพย์เช่นอสังหาฯ เพื่อขายในราคาที่คุ้มกับดอกเบี้ยเงินกู้ ช่วยรักษากระแสเงินสดเราไว้ใช้ต่อได้ แน่นอนว่าต้องเป็นสินทรัพย์ที่ดีและซื้อในจังหวะที่ดีเห็นโอกาสชัดเจน
  8. ใช้ประโยชน์จากนโยบายภาษี บริษัทเสียภาษีที่คิดจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าเสื่อมราคา แต่ลูกจ้างเสียภาษีจากรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย
  9. สร้างวิสัยทัศน์แห่งการมีอิสรภาพทางการเงิน (= มีทั้งเงินและเวลาใช้เงิน ไม่ใช่มีแต่เงิน) (Financial freedom):
    • นักลงทุน (Invester) ใช้เงินทำงานแทน นิยมลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ การลงทุนเป็นไปเพื่อขยายสินทรัพย์
    • เจ้าของกิจการ (Business owner) ใช้คนทำงานแทน ความสำเร็จเกิดจากการเพิ่มคนทำให้เราทำงานน้อยลง มีเวลาพักผ่อนส่วนตัวมากขึ้ัน ในขณะเดียวกันก็ยังมีรายได้โดยไม่ต้องทำเอง
    • ผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว (Self-employed) คือคนที่ทำงานหนักเพื่อให้ตนเองรวยโดย ใช้ตัวเองทำงาน เป็นผู้เห็นโอกาสในการทำกำไร แต่ถ้าคุณหยุดงานก็หยุด ไม่มีเวลาใช้เงินที่หามาได้อย่างเต็มที่ จึงไม่ใช่หนทางแห่งการสร้างอิสรภาพทางการเงิน
    • ลูกจ้าง (Employee) คือคนที่ทำงานหนักเพื่อให้คนอื่นรวย เป็นผลิตผลจากมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ซึ่งมุ่งเน้นการผลิตบุคลากรที่มีความชำนาญเฉพาะทางที่เป็นเลิศ หรือมุ่งเน้นการผลิตลูกจ้าง การเป็นลูกจ้างข้อดีคือไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงสูง ข้อเสียคือหากไม่สามารถทำงานได้ด้วยเหตุผลใดๆ ก็จะทำให้รายได้ก็จะขาด