วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562

ทำไมฝรั่งเค้าถึงลามาพักผ่อนที่เมืองไทยได้ทีละนานๆ

ผมเองก็เคยคิดและสงสัยเช่นเดียวกับคุณ...แต่เมื่อผมย้ายนิวาสถานตัวเองมาอยู่ท่ามกลางระบบแบบโลกตะวันตก ผมเลยเข้าใจและรู้ว่า...อ้อ!...มันเป็นเช่นนั้นเอง...อิอิอิ

ผมไม่ทราบว่า ที่ประเทศอื่นๆ ในยุโรปเขามีกม.อะไรอย่างไรเกี่ยวกับการทำงานและวันหยุดพักร้อน...แต่ที่ๆ ผมอยู่ และทำงาน...เรามีวันหยุดพักร้อนทั้งปี 5 สัปดาห์ครับ...ถ้ามีโอเวอร์ไทม์ก็บวกเข้าไปอีกซึ่งแล้วแต่จะตกลงกับเจ้านายงาน (Boss / Chef)...ทำงาน 1 ปี มีวันหยุดตามปกติ 5 สัปดาห์ ซึ่งจะพักร้อนยาวรวดเดียว 5 สัปดาห์หรือแบ่งเป็นตอนๆ ช่วงๆ ก็ไม่มีใครว่า (และมีโบนัสเดือนที่ 13 คือ เงินโบนัสประจำปีเท่ากับเงินเดือน 1 เดือน...ซึ่งเงินตรงนี้แหละครับที่หลายๆ คนเก็บเอาไว้เพื่อจ่ายภาษีประจำปี...555+)

มีลาพักร้อนนั้นมีการ plan กันข้ามปี เพื่อที่เจ้านายงานจะได้วางแผนงานสลับสับเปลี่ยน เพิ่ม สำรองพลสำหรับตารางการทำงานของปีต่อไปได้อย่างลงตัว เพราะพนง.มีมากมายหลายคนครับ...นั่นคือ การทำงานในระบบทั่วไปที่เรียกว่า งานประจำทำ 100 % (5 วัน/สัปดาห์...วันละประมาณ 8 ชั่วโมงกับอีก 10 นาที)...(อ้างอิงจากงานที่ผมทำ...555)

แต่ก็ยังมีงานอีกหลายรูปแบบเช่น ทำงาน 20% 40% 60% 80% หรือเป็น seasonal job เช่นทำในช่วงหน้าหนาว หรือ ในช่วงหน้าร้อน คือ พอหมดซีซั่นก็จบงาน ก็ค่อยว่ากันใหม่เมื่อซีซั่นมาถึงในปีถัดไป...และนอกจากนี้ก็ยังมีคนทำงานที่มีไลฟ์สไตล์แบบ alternative lifestyle คือ ใช้ชีวิตแบบทางเลือก เลือกอะไรหรือ?...ก็คือ เลือกใช้ชีวิตตามแนวตามใจของตนที่ตนปรารถนา อาทิ คนนี้ชอบท่องเที่ยวก็เลยพยายามหางานที่มันเอื้อกับเวลาที่ตนจะได้ไปท่องเที่ยว ซึ่งหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวเป็นแรมเดือนเขา/เธออาจจะมองหางาน หาเงินก้อนใหม่(เพื่อจะใช้ในการท่องเที่ยวในทริปถัดไป) ซึ่งหลายๆ คนเขาไม่ได้ฟุ้งเฟ้อเห่อหรือบ้าของแบรนด์เนมบ้าวัตถุ, ไม่ได้ไปกินอาหารตามร้านตามภัตตาคาร, เช่าที่อยู่อาศัยเล็กๆ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ใช้สอยอย่างประหยัด อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ไปเสียเวลาเสียเงินกับสิ่งเหล่านั้น และเก็บออมเงินไว้ยามจำเป็นและเพื่อการท่องเที่ยว (๕๕๕)...หรือไม่ก็พวกที่เป็น self-employed ซึ่งก็คือ เป็นนายของตัวเอง มีกิจการของตัวเอง...คนกลุ่มดังกล่าวที่ผมอ้างถึงนั่นแหละครับที่มีเวลาและมีเงินทอง(ที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมรอบไว้นานเป็นปี)เพื่อการไปเที่ยว ไปพักผ่อนหรือตะลอนเที่ยวอยู่ที่ไหนสักแห่งนานๆ เป็นแรมเดือน แรมปี

และก็มีอีกพวกหนึ่งที่ทำงานกันหลังขดหลังแข็ง ซีเรียสเครียด หูดับตับไหม้ ทำงานทำเงินกันงกๆ เพื่อเก็บเงินไว้ถมความต้องการ (desire) ที่ไม่มีสิ้นสุด...ซื้อโน่น ซื้อนี่ ซื้อนั่น ฟุ้งเฟ้อ หรูหราหรือทำเป็นหรูหรา...แล้วหลอกตัวเองไปวันๆ ว่า มีความสุข แต่เวลาเดินทางไปทำงาน ทำหน้าเหมือนกับเดินไปหลักประหารยังไงอย่างงั้น (โดยเฉพาะในวันจันทร์)...แล้วก็บ่นว่า "ฉันอยากพักผ่อนไปเที่ยวไกลๆ กับเขาบ้างจังเลย"...แต่พอลาหยุดพักร้อน ก็ไปเที่ยวแถวๆ ยุโรป เกาะแก่งต่างๆ ในกรีซบ้าง อิตาลีบ้าง สเปนบ้าง...ฯลฯ มันก็ราคาแบบยุโรปๆ นั่นแหละครับ...อยู่ไม่ได้เป็นเดือนๆ เหมือนพวกที่มาเที่ยวทางสยามบ้านเราหรอกครับ...555+ หรือถ้ามาทางสยามบ้านเรา...มีเวลาก็แค่ 1 สัปดาห์หรืออย่างมาก 2 สัปดาห์...พวกนี้จะซื้อ กิน จ่ายเต็มที่ เพราะมีเวลาน้อย...แต่ก็นั่นแหละ เขาเหล่านั้นก็ทำงานงกๆ หาเงินทอง(ซึ่งมันหายากกกก)เช่นเดียวกับคนอื่นๆ นั่นแหละครับ

คุณจขกท.เชื่อไหมครับว่า ฝรั่งหลายๆ คนที่เขาไปเที่ยวบ้านเรานั้น เขามาเที่ยวบ้านเราได้เป็นนานๆ หลายๆ เดือนนี่...เขาต้องทำงาน ต้องใช้ชีวิตเรียบง่าย ต้องเก็บออมมาเท่าไหร่ ถึงจะได้มีเงินเก็บมาเที่ยวบ้านเรา มาอุดหนุนเรา และมาใช้จ่ายในบ้านเราด้วยความประหยัด เพียงเพื่อที่จะได้อยู่เมืองไทยที่เขาชอบได้นานๆ...ก่อนจะไปเที่ยวนานๆ เขา/เธออาจจะทำเรื่องคืนอพาร์ทเม้นท์ไปแล้วด้วยก็ได้ บางคนขายทรัพย์สินหมดบ้านเพื่อเงินเล็กๆ น้อยๆ ไว้เป็นทุนเพื่อเดินทางท่องเที่ยว...บางคนมาเมืองไทยแล้ว พอหมดเวลาต้องกลับไปบ้านเขา บางทีเขายังไม่รู้เลยว่าชะตาชีวิตเกี่ยวกับเรื่องการงานจะออกหัวหรือก้อย...กลับมาดีไม่ดี ตกงานอยู่หลายๆ เดือนอีกต่างหาก...อพาร์ทเม้นท์ก็ไม่มี อาจจะต้องไปขออาศัยอพาร์ทเม้นท์ของเพื่อน พ่อแม่ หรือ ญาติๆ อยู่กว่าจะหางานทำและเช่าอพาร์ทเม้นท์ได้อีกครั้ง (เอ่อ...คือว่า...ถ้าไม่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง หรือตกงาน หรือรอสมัครงานอยู่นี่...อย่าหวังว่าจะได้เช่าอพาร์ทเม้นท์ง่ายๆ เลยนะครับ เพราะโบรกเกอร์เขาจะต้องพิจารณารายได้ของผู้ขอเช่าอพาร์ทเม้นท์ด้วยนะครับ เพื่อดูว่า คนๆ นี้ อยู่ๆ ไปแล้วจะมีปัญหาหรือมีปัญญาจ่ายค่าเช่าหรือไม่...555...ฟังดูอาจจะตลกนะครับ แต่เป็นเรื่องจริง...ระบบของที่นี่ในการเช่าห้องพัก บ้าน หรืออพาร์ทเม้นท์แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับสยามบ้านเรา)...ผมมองว่า สิ่งที่เขา/เธอทำนั้นเหมือนกับเป็นการ sacrifice...เขา sacrifice ชีวิต การเป็นอยู่ หน้าที่การงาน เพื่อที่ตัวเองจะได้มีอิสระได้ท่องเที่ยวได้นานๆ...และหลายคนรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ เมื่อพวกเขาถูกมองเหมือนเงินเคลื่อน และที่คนสยามบ้านเราคอยแต่จะจ้องเอาเปรียบ โก่งราคา ปลิ้นปล้อนหลอกลวง โกงฉ้อฉลสารพัด เพื่อที่จะรีดเอาเงินของเขาให้ได้มากที่สุดนั้น...เขาคิดว่า มันไม่เป็นธรรมสำหรับเขา...เราชาวสยามที่เคยคิดเช่นนั้น...ลองคิดตรองดูใหม่ดีไหมครับ?

https://m.pantip.com/topic/37934332?