Output VS Outcome VS Impact

หาหมอ ยารักษาโรคที่ได้ คือ output ผลการรักษาหายไม่หายคือ outcome
ตีพิมพ์บทความได้ คือ output ของงานวิจัย มีการนำไปใช้จริงคือ outcome
ดังนั้นปกติ outcome จะ long term กว่า output  และเป็นผลที่เกิดจากการนำ output ไปใช้ ส่วน  impact คือ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญๆ ไปในทางที่ดีของวงการ เศรษฐกิจ และสังคม ที่เกิดจาก outcome แต่ longer term กว่า outcome

REST

Restful API คือ Web service อย่างหนึ่งที่ประยุกต์ใช้ HTTP operations เช่น GET,  PUT, POST, DELETE ในการทำงาน

Use case Extend vs Include relationships

Extend is used when a use case conditionally adds steps to another first class use case.

For example, imagine "Withdraw Cash" is a use case of an ATM machine. "Assess Fee" would extend Withdraw Cash and describe the conditional "extension point" that is instantiated when the ATM user doesn't bank at the ATM's owning institution. Notice that the basic "Withdraw Cash" use case stands on its own, without the extension.

Include is used to extract use case fragments that are duplicated in multiple use cases. The included use case cannot stand alone and the original use case is not complete without the included one. This should be used sparingly an only in cases where the duplication is significant and exists by design (rather than by coincidence).

For example, the flow of events that occurs at the beginning of every ATM use case (when the user puts in their ATM card, enters their PIN, and is shown the main menu) would be a good candidate for aninclude.

อุปมาน VS. อนุมาน

การสรุปแบบอุปมาน(Induce) เป็นการสรุปจากความจริงย่อย เป็นประโยคอ้าง เพื่อลงข้อสรุปเป็นความจริงใหม่ ถ้าประโยคอ้างเป็นจริง ข้อสรุปนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นจริง

ยกตัวอย่าง

แม่ชอบชื้อสินค้าที่มีของแถม             (ความจริงย่อย ประโยคอ้าง)

พี่สาวชอบซื้อสินค้าที่มีของแถม          (ความจริงย่อย ประโยคอ้าง)

เพื่อนผู้หญิงชอบซื้อสินค้าที่มีของแถม  (ความจริงย่อย ประโยคอ้าง)

ป้าชอบซื้อสินค้าที่มีของแถม                  (ความจริงย่อย ประโยคอ้าง)

ผู้หญิงชอบซื้อสินค้าที่มีของแถม            (ข้อสรุป)

สังเกตว่าเป็นการสรุปแบบแนวราบ
ส่วนการทำวิจัยด้วยวิธีอุปมาน (inductive approach) เป็นการสร้างทฤษฎีจากข้อเท็จจริงที่มีอยู่เรียกว่า grounded theory

การสรุปแบบอนุมาน(Deduce) เป็นการใช้เหตุผลจากทฤษฎี หลักการ ไปลงข้อสรุป 

ยกตัวอย่าง

                                ดอกไม้สีขาวมีกลิ่นหอม       (ความรู้เดิม หรือประโยคอ้าง)

                                ดอกมะลิมีสีขาว                      (ความจริงย่อย)

                                ดอกมะลิมีกลิ่นหอม               (ข้อสรุป)

สังเกตว่าเป็นการสรุปแบบแนวดิ่ง

ส่วนการทำวิจัยด้วยวิธีอนุมาน (deductive approach) คือตั้งทฤษฎีขึ้นมาก่อนแล้วพิสูจน์ทฤษีดังกล่าว

ประโยชน์ของการเขียนจุดอ่อนของงานวิจัยไว้ในเล่ม

นอกจากจะช่วยให้นักวิจัยรุ่นน้องได้ต่อยอดแล้วยังเป็นการแสดงให้เห็น Research ethics ของผู้เขียน ทำให้เนื้อหาในเล่มมีความน่าเชื่อถือสูงขึ้น ไม่มีข้อข้องใจเรื่องการหมกเม็ดผลการทดลองหรืออื่นๆ