วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส (8)

...
ที่ขยัน ขันแข็ง ในหน้าที่
ทุกแห่งมี ธรรมะ ข้อใหญ่ๆ
...
ดูให้ดี ธรรมะมี ที่การงาน
ทั้งที่วัด ที่บ้าน ย่านวิถี
ตามทุ่งนา ป่าเขา คราวทำดี
ก็อาจชี้ ให้เห็นธรรม ตามตัวคน
(เมื่อบกพร่อง ในหน้าที่ ไม่มีธรรม)

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส (7)

สติสัตว์ ตามบัญญัติ ว่า สมปฤดี
เพียงเท่านี้ มีกันได้ ไม่แปลกหนา
เพียงไม่เมา ไม่สอบ ไม่นิทรา
คนหรือปลา ก็มีได้ ไม่แปลกกัน

สติมนุษย์ สูงสุด กว่านั้นนัก
มีปัญญา อันประจักษ์ ประจวบมั่น
ระลึกอยู่ รู้สึกอยู่ และรู้ทัน
ไม่มีวัน ที่จะเกิด กิเลสมา

ระลึกได้ ทันที ที่มีอะไร
มาปรุงให้ เกิดจิต จริตบ้า
ว่าตัวกู หยุดอยู่ รู้ธรรมดา
นี้เรียกว่า สติของ มนุษย์แท้

วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส (6)

ตอนเป็นเด็กๆ คุณก็อยาก ดี
ต่อมาไม่กี่ปี คุณกลายเป็นอยากดัง
ใครเตือนก็ไม่อยากฟัง คุณอยากเด่น
ไม่แคร์ใครเขาเขม่น คุณอยากโ่ด่ง
เริ่มรู้จักบิดพลิ้วคดโกง คุณอยากดื้อ
ต่อมาอีกไม่กี่มื้อ คุณอยากโดด
พระเจ้าไม่โปรด คุณก็ต้องอยากดับ
พระเจ้าไม่รับ ก็มีแต่นรกให้คุณด่ำ
ดอกเอ๋ย เจ้าดอกเวรกรรม
อะไรๆ ก็ไม่อยากจะทำ
ขอแต่ให้ได้ด่ำนรกเอยฯ

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส (5)

อันความดี มีเสนียด ทีความเด่น
มันกลายเป็น จุดยื้อแย่ง แห่งพวกหา
คนบ้าดี เห็นคนเด่น เป็นเสี้ยนตา
คนฤษยา มุ่งย่ำยี คนดีเกิน

อีกทางหนึ่ง ซึ่งหลีก ไม่ค่อยไหว
ยิ่งดีไป ก็ยิ่งให้ คนสรรเสริญ
มีคนมา กราบไหว้ หรืออัญเชิญ
ไม่น่าเพลิน มันรบกวน ไม่ชวนสบาย,

เหตุดังนั้น ท่านสอน ให้หลีกหนี
พ้นความชั่ว ความดี สิ้นทั้งหลาย
หรือทำจิต ให้สนิท ดุจดั่งตาย-
จากดี-ชั่ว ทั้งหลาย : ได้นิพพาน ฯ

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส (4)

เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย

จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง

ไม่นานนัก จักมี ดีประดัง
จนกระทั่ง ถึงมี ดีอย่างยิ่ง
เมื่อพ้นดี จะถึงที่ นิพพานจริง
นับเป็นสิ่ง ควรฝึกแน่ มองแต่ดี

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส (3)

เขาจะดี กว่าเรา ช่วยเขาเถิด
มันจะเกิด ผลดี กว่าที่หวง
ไว้ดีเด่น แต่เรา เฝ้าประท้วง
โลกยิ่งกลวง จากความดี ดีอะไร

รีบช่วยให้ แต่ละคน ดีกว่าเรา
โลกจะเพรา เพริศพริ้ง และยิ่งใหญ่
ดาดด้วยธรรม อุปัททวะ ก็ละไกล
ริษยาใคร เท่ากับขุด โลกทรุดลง

จงเมตตา มุทิตา อารีเถิด
จะไม่เกิด กิเลสเผา เราเป็นผง
เห็นแก่โลก ยิ่งกว่าตน นั่นคนตรง
คนคดหลง ดีแต่ตัว มัวข่วคน

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส (2)

เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง

ถ้ารู้หยั่ง อดีต อนาคต
ปัจจุบัน จะถูกหมด สิ้นทั้งผอง
ยิ่งขันตี เมตตา มาประคอง
จะยิ่งมอง อย่างถูกควร ถ้วนทุกพันธุ์

ในโลกนี้ ไม่มี อะไรเที่ยง
เหมือนมันเหวี่ยง ซ้ายขวาเขว อยู่เหหัน
รู้จักหน่วง ถูกที่กลาง วางดุลย์พลัน
จะพ้นอัน ตรายรอด ตลอดไป

มองแต่แง่ดีเถิด ปฏิทินธรรม 2553 คำกลอนพุทธทาส

อย่าไปเสียเวลามองหาคนที่ไม่มีด้านเสีย เพราะไม่มีในโลกนี้

ถ้าทำอะไร ด้วยใจ ว่างจาก กู
แม่ด่าอยู่ ก็กลายเป็นเช่นคำสอน
ใครด่ามา กลายเป็นเย็น ไม่เป็นร้อน
ใครจะข้อน มาเท่าไร ไม่ถูกตนฯ

จึงไม่ต้องร้อนใจดั่งไฟผลาญ
ไม่เดือดพล่าน จุกแน่น แสนสับสน
ไม่กลุ้มใจ จนไม่กล้า ดูหน้าคน
ที่อลวน พัลวัน มันมี กู

แม้พากเพียร เรียนธรรม หรือพูดธรรม
เผยแผ่ธรรม ก็สูญเปล่า เอาข้างกู
ก่อนทำอะไร ให้นึกถาม บรมครู
อย่าอวดรู้ มัวแต่อ้าง แม่นางตนฯ

Method vs. Methodology

Methodology refers to more than a simple set of methods, rather it refers to the rationale and the philosophical assumptions that underlie a particular study. -- Wikipedia.org

ระดับความสำคัญของหัวข้อวิจัยที่เสนอ

  • ระดับ(อริยสัจสี่)ทุกข์ คือ ศึกษาสภาพปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน จะได้รับทุนวิจัยน้อย
  • ระดับสมุทัย คือ ศึกษาสาเหตุของปัญหา จะได้รับทุนวิจัยมากกว่าหัวข้อวิจัยระดับทุกข์
  • ระดับนิโรธและมรรค คือ วิจัยวิธีแก้ปัญหา จะได้รับทุนวิจัยสูงสุด
--ศ.ดร.สุวิมล ว่องวานิช คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

นกที่เป็นสัญลักษณ์ของความรัก

คือนกเงือก เพราะทั้งชีวิตจะมีคู่เพียงตัวเดียวแม้คู่จะตายไปก็จะไม่มีคู่ใหม่อีก นอกจากนี้นกเงือกยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การเปิดหลักสูตรใหม่ของมหาวิทยาลัยในไทย

พรบ การศึกษาแห่งชาติ ให้อำนาจสภามหาวิทยาลัยของแต่ละมหาวิทยาลัยในการอนุมัติหลักสูตรใหม่ในสถาบันตนได้ แต่ต้องให้ สกอ. (สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา) รับทราบ มิเช่นนั้นบัณฑิตที่จบไปสมัครงานกับหน่วยงานราชการ, สภาวิชาชีพในแต่ละแขนงเช่น สภาการพยาบาล, สภาวิศวกร และ กพ.จะรับรองการเทียบวุฒิให้ไม่ได้ สามารถตรวจสอบการรับรองหลักสูตรของมหาลัยต่างๆ โดย สกอ ได้ที่ www.mua.go.th/knowing
--CUradio

บวชศีลจาริณี

คือการบวชด้วยการนุ่งขาว ใส่ขาว รักษาศีล ๘ รับประทานอาหารมังสะวิรัติ เพื่ออบรมธรรมะ และเจริญภาวนา สร้างบุญบารมี เป็นระยะเวลา ๗ วัน ๕ วัน ๓ วัน เป็นต้น

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

Extreme Programming (XP)

A software development methodology which is intended to improve software quality and responsiveness to changing customer requirements. It advocates frequent "releases" in short development cycles, which is intended to improve productivity and introduce checkpoints where new customer requirements can be added.

Pros: In traditional system development methods (such as SSADM or the waterfall model) the requirements for the system are determined at the beginning of the development project and often fixed from that point on. This means that the cost of changing the requirements at a later stage (a common feature of software engineering projects) will be high. Like other agile software development methods, Extreme Programming attempts to reduce the cost of change by having multiple short development cycles, rather than one long one.

Cons: Critics have noted several potential drawbacks, including problems with unstable requirements, no documented compromises of user conflicts, and lack of an overall design spec or document.

วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553

Undergrads VS Graduates

Undergrads คือผู้เสพปัญญาที่ผู้อื่นสร้างขึ้นเพื่อนำไปใช้ประกอบอาชีพ
Graduates สร้า้งปัญญาที่มีคุณค่าให้ผู้อื่นเสพ

วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

หัวข้อวิจัยมาจากไหน

ตามหลักอริยสัจสี่
  1. ทุกข์ คือ เห็นปัญหา เช่น คอมพิวเตอร์ที่ถือไปบรรยายหนัก
  2. สมุทัย คือ หาเหตุแห่งทุกข์ เช่น เพราะข้อมูลรวมทั้งโปรแกรมสำหรับสาธิตติดตั้งอยู่ในคอมพิวเตอร์หมดและมีขนาดใหญ่
  3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ เช่น ควรสร้าง Personal Cloud จะได้ไม่ต้องถือคอมพิวเตอร์ และไม่ต้องคัดลอกไฟล์ใส่แฟลชเมมโมรี่ไปติดตั้งที่เครื่องคอมฯประำจำห้องเรียน
  4. มรรค คือ วิธีดับทุกข์ เช่น วิธีสร้าง Personal Cloud

งานวิจัย เป็นอย่างไร แบบไหนถึงเรียกว่าเป็นงานวิจัยได้

บางคนสับสนไม่มั่นใจว่าสิ่งที่จะทำถือเป็นงานวิจัยได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงการประดิษฐ์ทั่วไป ก่อนอื่น ควรทำความเข้าใจกับภาพรวมของสิ่งที่คิดขึ้นใหม่ต่างๆ นั่นคือ นวัตกรรม

นวัตกรรม (Innovation) คือ ปัญญา (วิจัย) หรือความคิด (จากการประดิษฐ์ ไม่รวมงานวรรณกรรม) ที่อยู่ในรูปแบบที่เป็นนามธรรม (ได้แก่ กระบวนการ, ทฤษฎี, สูตร, ความจริง) หรือรูปธรรม (ได้แก่ Hardware, Software ซึ่งรับรู้ได้ผ่านอายตนะทั้ง 5 ยกเว้นใจ) มีความใหม่ (Novelty) ที่ระดับปัญญา(กรณีเป็นงานวิจัย)หรือที่ระดับความคิด(ในกรณีการประดิษฐ์) และมีคุณประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ (Economic Impact) หรือเชิงสังคม (Social Impact)




















งานวิจัย (Research) คือ การค้นคว้าหาปัญญาหรือความจริงใหม่ (Finding, Research Contribution) ในวงการ (Area of Research) ที่มีประโยชน์แก่มนุษย์และธรรมชาติอย่างตั้งใจและพยายามอย่างมีระบบแบบแผนตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (ดังนั้นการค้นพบปัญญาหรือความจริงใหม่ของโลกโดยบังเิอิญโดยไม่ตั้งใจหรือพยายามใดๆ จึงไม่ถือเป็นการวิจัย) ปัญญาจะถูกพิจารณาว่าใหม่หรือไม่ต้องทำการสำรวจงานวิจัยที่มีอยู่ก่อน (Literature Review) ผลของงานวิจัยจะก่อให้เกิดวิวัฒนาการขององค์ความรู้ในวงการซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นตัวแทนของมวลมนุษยชาติ (Body of Human's Knowledge) และสามารถนำมาสร้างขึ้นเพื่อใช้ในชีวิตจริงได้ งานวิจัยถือเป็นนวัตกรรมเสมอ

สิ่งประดิษฐ์ (Invention) คือ การดัดแปลงประยุกต์ใช้ปัญญา (ผลของงานวิจัย) หรือการประยุกต์ใช้องค์ความรู้ที่มีอยู่แล้วในการสร้างผลลัพธ์ใหม่ที่ประกอบขึ้นจากวัตถุในทางรูปธรรมหรือนามธรรมที่มีอยู่แล้ว และเป็นผลลัพธ์ที่มีคุณภาพหรือประสิทธิภาพที่ดีขึ้นใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน งานประดิษฐ์ที่สามารถสร้างประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ก็สามารถขอตรวจสอบเพื่อจดสิทธิบัตร

เทคโนโลยี (Technology) คือ สิ่งที่สร้างขึ้นจากผลของงานวิจัย อาจเป็นรูปธรรม เช่น LCD, UML หรือนามธรรม เช่น Modulation technique หรือทั้งสองแบบ เช่น ระบบ 3G

-----
“การวิจัย” หมายความว่า การศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ หรือทดลองอย่างเป็นระบบ อันจะทำให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง ความรู้ใหม่ หรือหลักการไปใช้ในการตั้งกฎ ทฤษฎี แนวทางในการปฏิบัติเพื่อเป็นพื้นฐานของการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปวิทยาการแขนงต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อสร้างนวัตกรรมอันจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้
“นวัตกรรม” หมายความว่า ผลิตภัณฑ์ สิ่งประดิษฐ์ บริการ กรรมวิธีที่เกี่ยวกับการผลิต การจัดโครงสร้างองค์กร ระบบบริหารจัดการ การบริหารการเงิน ธุรกิจ การตลาด หรือในการอื่นใด ทั้งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งใหม่หรือพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างมีนัยสำคัญและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในวงกว้างทั้งในเชิงพาณิชย์และสาธารณะ
ที่มา : พระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2562