วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553
CRM
ข้อมูลลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าจะถูกนำมาทำ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อให้ทราบว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัทเป็นกลุ่มไหนบ้าง สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์และจัดทำโปรโมชั่นให้้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากมีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ก็จะมีสินค้าที่เกี่ยวข้องแนะนำด้วย ช่วยขยายการบริโภคผลิตภัณฑ์ในอนาคต นอกจากนี้ข้อมูลความลับ เช่น บัตรเครดิต ของลูกค้าต้องไม่รั่วไหลมีความปลอดภัยสูงสุด
คุณลักษณะสำคัญของนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่
- กระหายที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (Thirst for continuous education)
- มีแรงจูงใจหรือแรงขับส่วนบุคคล (Personal drive and motivation) ทำให้ทุ่มเทและพยายามมากกว่าคนอื่นๆ
- มีจุดมุ่งหมายและความทะเยอทะยานอย่างเข้มข้น (Strong goals and ambition)
- มีวิสัยทัศน์ชัดเจน (Clear vision) มองเห็นว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ หรือทำอะไรดีกว่าอย่างอื่น
- มีอารมณ์หรือความอยากที่ท่วมท้น (A great deal of passion) ทำให้อยากและสนุกกับการทำงาน ตื่นเต้นกับผลของงานที่จะเกิดขึ้น
วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553
Gen X, Y, Baby boomer
- Baby boomer is someone born during the demographic birth boom between 1946 and 1964 (หรือหลังสงครามโลกครั้งที่สอง) เป็นพวกอนุรักษ์นิยม เป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้าถึงได้ด้วยสื่อเดิม เช่น ทีวี แมกกาซีน วิทยุ
- Generation X generally includes people born in the 1965 and 1976. เป็นกลุ่มที่ยินดีรับการเปลี่ยนแปลง ใช้จ่ายเงินเพื่อความสุขของชีวิต
- Generation Y or Digital generation was born after 19ึ77 เป็นกลุ่มที่ต้องการอิสรภาพสูง เป็นผู้ให้กำเนิดFacebook, Youtube และเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้าถึงได้ด้วย Social media
วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้บริสุทธิ์
เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
การไม่กล่าวร้าย ๑
การไม่ทำร้าย ๑
ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑
ความเป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร ๑
ที่นอนที่นั่งอันสงัด ๑
การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑
หกอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
โอวาทปาติโมกข์ หมายถึง หลักคำสอนคำสำคัญของพระพุทธศาสนาอันเป็นไปเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น หรือคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖ ดังนี้
หลักการ ๓
๑. การไม่ทำบาปทั้งปวง ได้แก่การงดเว้น การลด ละเลิก ทำบาปทั้งปวง ซึ่งได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางแห่งความชั่ว มีสิบประการ อันเป็นความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจความชั่วทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม
ความชั่วทางวาจา ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ
ความชั่วทางใจ ได้แก่ การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม
๒. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดี ทุกอย่างซึ่งได้แก่ กุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นแบบของการทำฝ่ายดีมี ๑๐ อย่าง อันเป็นความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจการทำความดีทางกาย ได้แก่ การไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายเบียดเบียน ผู้อื่นมีแต่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการไม่ประพฤติผิดในกาม
การทำความดีทางวาจา ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อพูดแต่คำจริง พูดคำอ่อนหวาน พูดคำให้เกิดความสามัคคีและพูดถูกกาลเทศะ
การทำความดีทางใจ ได้แก่ การไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่นมีแต่คิดเสียสละการไม่ผูกอาฆาตพยาบาทมีแต่คิดเมตตาและปรารถนาดีและมีความเห็นความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
๓. การทำจิตให้บริสุทธิ์ ได้แก่ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ปราศจากนิวรณ์ซึ่งเป็นเครื่องขัดขวางจิตไม่ให้เข้าถึงความสงบ มี ๕ ประการ ได้แก่ นิวรณ์ 5
๑). ความพอใจในกาม (กามฉันทะ)
๒). ความอาฆาตพยาบาท (พยาบาท)
๓). ความหดหู่ท้อแท้ ง่วงเหงาหาวนอน (ถีนะมิทธะ)
๔). ความฟุ้งซ่าน รำคาญ (อุทธัจจะกุกกุจจะ) และ
๕). ความลังเลสงสัย (วิกิจฉา) เช่น สงสัยในการทำความดี ความชั่วว่ามีผลจริงหรือไม่
อุดมการณ์ ๔
๑. ความอดทน ได้แก่ ความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งทางกายวาจา ใจ
๒. ความไม่เบียดเบียน ได้แก่ การงดเว้นจากการทำร้ายรบกวน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
๓. ความสงบ ได้แก่ ปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
๔. นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นได้จาการดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ ๘
วิธีการ ๖
๑. ไม่ว่าร้าย ได้แก่ ไม่กล่าวให้ร้ายหรือ กล่าวโจมตีใคร
๒. ไม่ทำร้าย ได้แก่ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
๓. สำรวมในปาติโมกข์ ได้แก่ ความเคารพระเบียบวินัย กฎ กติกา กฎหมาย รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของสังคม
๔. รู้จักประมาณ ได้แก่ รู้จักความพอดีในการบริโภคอาหาร หรือการใช้สอยสิ่งต่าง ๆ
๕. อยู่ในสถานที่ที่สงัด ได้แก่ อยู่ในสถานที่สงบมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
๖. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ ได้แก่ ฝึกหัดชำระจิตให้สงบมีสุขภาพ คุณภาพและประสิทธิภาพที่ดี
--http://board.palungjit.com/f8/โอวาทปาฏิโมกข์-คำสอนที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา-218036.html
การไม่กล่าวร้าย ๑
การไม่ทำร้าย ๑
ความสำรวมในพระปาติโมกข์ ๑
ความเป็นผู้รู้ประมาณในภัตตาหาร ๑
ที่นอนที่นั่งอันสงัด ๑
การประกอบความเพียรในอธิจิต ๑
หกอย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย.
โอวาทปาติโมกข์ หมายถึง หลักคำสอนคำสำคัญของพระพุทธศาสนาอันเป็นไปเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น หรือคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖ ดังนี้
หลักการ ๓
๑. การไม่ทำบาปทั้งปวง ได้แก่การงดเว้น การลด ละเลิก ทำบาปทั้งปวง ซึ่งได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางแห่งความชั่ว มีสิบประการ อันเป็นความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจความชั่วทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม
ความชั่วทางวาจา ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ
ความชั่วทางใจ ได้แก่ การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม
๒. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดี ทุกอย่างซึ่งได้แก่ กุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นแบบของการทำฝ่ายดีมี ๑๐ อย่าง อันเป็นความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจการทำความดีทางกาย ได้แก่ การไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายเบียดเบียน ผู้อื่นมีแต่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการไม่ประพฤติผิดในกาม
การทำความดีทางวาจา ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อพูดแต่คำจริง พูดคำอ่อนหวาน พูดคำให้เกิดความสามัคคีและพูดถูกกาลเทศะ
การทำความดีทางใจ ได้แก่ การไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่นมีแต่คิดเสียสละการไม่ผูกอาฆาตพยาบาทมีแต่คิดเมตตาและปรารถนาดีและมีความเห็นความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
๓. การทำจิตให้บริสุทธิ์ ได้แก่ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ปราศจากนิวรณ์ซึ่งเป็นเครื่องขัดขวางจิตไม่ให้เข้าถึงความสงบ มี ๕ ประการ ได้แก่ นิวรณ์ 5
๑). ความพอใจในกาม (กามฉันทะ)
๒). ความอาฆาตพยาบาท (พยาบาท)
๓). ความหดหู่ท้อแท้ ง่วงเหงาหาวนอน (ถีนะมิทธะ)
๔). ความฟุ้งซ่าน รำคาญ (อุทธัจจะกุกกุจจะ) และ
๕). ความลังเลสงสัย (วิกิจฉา) เช่น สงสัยในการทำความดี ความชั่วว่ามีผลจริงหรือไม่
อุดมการณ์ ๔
๑. ความอดทน ได้แก่ ความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งทางกายวาจา ใจ
๒. ความไม่เบียดเบียน ได้แก่ การงดเว้นจากการทำร้ายรบกวน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
๓. ความสงบ ได้แก่ ปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
๔. นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นได้จาการดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ ๘
วิธีการ ๖
๑. ไม่ว่าร้าย ได้แก่ ไม่กล่าวให้ร้ายหรือ กล่าวโจมตีใคร
๒. ไม่ทำร้าย ได้แก่ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
๓. สำรวมในปาติโมกข์ ได้แก่ ความเคารพระเบียบวินัย กฎ กติกา กฎหมาย รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของสังคม
๔. รู้จักประมาณ ได้แก่ รู้จักความพอดีในการบริโภคอาหาร หรือการใช้สอยสิ่งต่าง ๆ
๕. อยู่ในสถานที่ที่สงัด ได้แก่ อยู่ในสถานที่สงบมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
๖. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ ได้แก่ ฝึกหัดชำระจิตให้สงบมีสุขภาพ คุณภาพและประสิทธิภาพที่ดี
--http://board.palungjit.com/f8/โอวาทปาฏิโมกข์-คำสอนที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา-218036.html
วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2553
คนนินทา โกรธ เกลียด
คนนินทา โกรธ เกลียด อาจชั่วกว่าคนที่ถูกนินทา ถูกโกรธ ถูกเกลียด เสียอีก เพราะคนที่ถูกนินทา ถูกโกรธ ถูกเกลียด แท้จริงอาจเป็นคนดี
--วัดสังฆทานธรรม
--วัดสังฆทานธรรม
พระพุทธเจ้าตอบ
ถาม: ทำไมคนรอบข้างชอบทำให้เราไม่ชอบใจ ให้เราโกรธเกลียด
พระพุทธเจ้าตอบ: แล้วทำไมเราถึงไม่เกลี่ยดใจเราดวงนั้น..
--วัดสังฆทานธรรม
พระพุทธเจ้าตอบ: แล้วทำไมเราถึงไม่เกลี่ยดใจเราดวงนั้น..
--วัดสังฆทานธรรม
วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553
วิธีชนะมารของพระพุทธเจ้า (จากบทสวดพาหุง)
- ขันติธรรม คือความอดทนต่อคนชั่ว
- เมตตาบารมี แก่คนที่มุ่งจะทำร้าย
- อิทธิปาฏิหาริย์ ทั้งทางกายและทางใจ
- ความสงบนิ่ง ระงับพระหฤทัยในท่ามกลางความกดดันของหมู่ชนที่เข้าใจผิด
- การใช้ผู้มีฤทธิ์ เพื่อให้มารรู้ว่าฤทธิ์ตนที่ว่ามาก ยังมีผู้มีฤทธิ์มากกว่า
- เทศนาญาณ คือรู้อัชฌาสัย (นิสัยประจำตัว) แล้วสอนให้มองเห็นความจริง
วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553
ธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Venture Capital, VC)
หมายถึง ธุรกิจที่ระดมเงินทุนจากแหล่งต่างๆ มาเพื่อนำไปลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพในการเติบโต โดย VC จะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลหรือผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนหุ้น VC จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีตามที่ระบุไว้ใน http://www.rd.go.th/publish/546.0.html
วิธีคิดบ่งบอกอนาคต กำหนดชะตากรรม
เราคิดอย่างไรจะกลายเป็นคนอย่างนั้น คิดบวก ชีวิตก็เป็นบวก คิดลบ ชีวิตก็ติดลบ--ว.วชิรเมธี
วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553
การปฏิวัติ CPU
Supercomputer ทั้งเครื่องถูกย่อลงเป็นชิพหนึ่งตัวเรียกว ่า Supercomputer-on-a-chip ซึ่งกลายเป็น yesterday's goal ของอินเทลไปแล้ว ส่วน Today's goal ของอินเทลคือย่อทั้ง Data center ลงไปไว้ในชิพเล็กๆ เพียงตัวเดียว (Single-Chip Cloud Computer) ซึ่งต้นแบบถูกพัฒนาขึ้นสำเร็จแล้วโดยประกอ บไปด้วย 48 cpu cores และ 24 routers อยู่ในชิพเดียวกัน
วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553
Oracle and Apple Announce OpenJDK Project for OSX; Java SE 7 and 8 JSRs Approved
Good news all around! Oracle and Apple announced the OpenJDK project for Mac OS X. Apple will contribute most of the key components, tools and technology required for a Java SE 7 implementation on Mac OS X, including a 32-bit and 64-bit HotSpot-based Java virtual machine, class libraries, a networking stack and the foundation for a new graphical client. OpenJDK will make Apple's Java technology available to open source developers so you can access and contribute to the effort.--Oracle
Look and Feel
Look and feel คือ GUI ที่ประกอบไปด้วยส่วน Look เช่น colors, shapes, layout, และ typefaces และส่วน Feel ซึ่งเป็นส่วนที่เป็น Dynamic elements เช่น buttons, boxes, และ menus
Number Portability
นายปรีย์มน ปิ่นสกุล ประธานกรรมการ บริษัท ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ กล่าวว่าการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์มือถือ (Number Portability) หลังจากเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา การส่งข้อมูลจากโอเปอเรเตอร์ไปเคลียริ่งเฮาส์ติดปัญหาเพียงเล็กน้อยในช่วงวันแรกๆ ซึ่งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จนถึงขณะนี้ (14 ธ.ค.) ทุกอย่างราบรื่น
ส่วนการพอร์ต (การย้ายค่าย) ของลูกค้าปรากฏว่าลูกค้าให้ความสนใจเกินที่จำกัดไว้ที่ 100 เบอร์ต่อโอเปอเรเตอร์ต่อวัน ซึ่งลูกค้าที่มาช้าต้องรอไปพอร์ตวันใหม่ แต่ในจำนวน 100 เบอร์ต่อวันนี้ ประมาณ 40% ไม่สามารถอนุมัติให้พอร์ตได้ เนื่องจากไม่สามารถแสดงตนได้ว่าเป็นเจ้าของเบอร์จริง และบางรายยังไม่ได้จ่ายค่าบริการจากการใช้งานของโอเปอเรเตอร์รายเดิม
ทั้งนี้จากความต้องการย้ายค่ายมือถือใหม่ที่ลูกค้าให้ความสนใจเกินขีดจำกัด ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์มือถือจึงมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนการพอร์ตจาก 100 เบอร์ เป็น 200 เบอร์ต่อโอเปอเรเตอร์ต่อวัน หลังวันที่ 15 ธ.ค.นี้ และหลังจากวันที่ 20 ธ.ค.จะเพิ่มสถานที่ให้บริการจากเดิมในกรุงเทพฯ รายละ 5 แห่งไปยังต่างจังหวัดอีกรายละ 5 แห่งส่วนจะเปิดให้บริการทั่วประเทศแบบไม่จำกัดจำนวนได้คาดว่าจะเป็นหลังเดือนม.ค. 54
นายปรีย์มนกล่าวว่า สำหรับผู้ใช้บริการแบบรายเดือนหรือโพสต์เพดไม่ค่อยจะมีปัญหาในการพอร์ต แต่ผู้ใช้บริการแบบเติมเงินหรือพรีเพดกว่า 90% ไม่จดทะเบียน หรือจดอาจเป็นชื่อคนอื่น พอย้ายค่ายจะมีปัญหา เพราะหากแจ้งเลขหมายแล้วไม่ตรงกับชื่อคนใช้ ระบบจะไม่อ่าน เพราะการประมวลผลใช้คอมพิวเตอร์ ที่ต้องทำลักษณะนี้เพราะกันคนอื่นขโมยเบอร์ไปใช้ ดังนั้น การย้ายค่ายมือถือแต่ยังเป็นเบอร์เดิม ผู้ที่ต้องการพอร์ตจะต้องนำหลักฐาน เช่นบัตรประจำตัวประชาชนไปแสดงตนกับค่ายที่ต้องการจะย้ายเข้าไปใช้บริการ พร้อมเงิน 99 บาท และต้องเคลียร์เรื่องค่าใช้บริการของโอเปอเรเตอร์รายเดิมให้แล้วเสร็จก่อน-- manager.co.th
ส่วนการพอร์ต (การย้ายค่าย) ของลูกค้าปรากฏว่าลูกค้าให้ความสนใจเกินที่จำกัดไว้ที่ 100 เบอร์ต่อโอเปอเรเตอร์ต่อวัน ซึ่งลูกค้าที่มาช้าต้องรอไปพอร์ตวันใหม่ แต่ในจำนวน 100 เบอร์ต่อวันนี้ ประมาณ 40% ไม่สามารถอนุมัติให้พอร์ตได้ เนื่องจากไม่สามารถแสดงตนได้ว่าเป็นเจ้าของเบอร์จริง และบางรายยังไม่ได้จ่ายค่าบริการจากการใช้งานของโอเปอเรเตอร์รายเดิม
ทั้งนี้จากความต้องการย้ายค่ายมือถือใหม่ที่ลูกค้าให้ความสนใจเกินขีดจำกัด ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์มือถือจึงมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนการพอร์ตจาก 100 เบอร์ เป็น 200 เบอร์ต่อโอเปอเรเตอร์ต่อวัน หลังวันที่ 15 ธ.ค.นี้ และหลังจากวันที่ 20 ธ.ค.จะเพิ่มสถานที่ให้บริการจากเดิมในกรุงเทพฯ รายละ 5 แห่งไปยังต่างจังหวัดอีกรายละ 5 แห่งส่วนจะเปิดให้บริการทั่วประเทศแบบไม่จำกัดจำนวนได้คาดว่าจะเป็นหลังเดือนม.ค. 54
นายปรีย์มนกล่าวว่า สำหรับผู้ใช้บริการแบบรายเดือนหรือโพสต์เพดไม่ค่อยจะมีปัญหาในการพอร์ต แต่ผู้ใช้บริการแบบเติมเงินหรือพรีเพดกว่า 90% ไม่จดทะเบียน หรือจดอาจเป็นชื่อคนอื่น พอย้ายค่ายจะมีปัญหา เพราะหากแจ้งเลขหมายแล้วไม่ตรงกับชื่อคนใช้ ระบบจะไม่อ่าน เพราะการประมวลผลใช้คอมพิวเตอร์ ที่ต้องทำลักษณะนี้เพราะกันคนอื่นขโมยเบอร์ไปใช้ ดังนั้น การย้ายค่ายมือถือแต่ยังเป็นเบอร์เดิม ผู้ที่ต้องการพอร์ตจะต้องนำหลักฐาน เช่นบัตรประจำตัวประชาชนไปแสดงตนกับค่ายที่ต้องการจะย้ายเข้าไปใช้บริการ พร้อมเงิน 99 บาท และต้องเคลียร์เรื่องค่าใช้บริการของโอเปอเรเตอร์รายเดิมให้แล้วเสร็จก่อน-- manager.co.th
วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553
Web OS
เช่น Google's ChromeOS, Microsoft's Gazelle เป็นระบบปฏิบัติการยุคคลาวด์ซึ่งจะมีแอพพลิเคชั่นเพียงตัวเดียวคือ Web browser ส่วนแอพพลิเคชั่นอื่นจะอยู่ในรูปแบบ SaaS ที่เรียกใช้ผ่าน Web browser หรือตัว Web OS นั่นเอง
Like Chrome OS, which is built on top of Linux, Gazelle isn’t really a new operating system. Rather it is a layer that extends the browser’s security model down into the operating system level.--http://www.infoq.com/news/2009/07/Gazelle
ส่วน Google's native code และ Microsoft XaX เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถรัน traditional application บน web browser ได้
Web OS อีกตัวชื่อ WebOS ของ Palm ซึ่งถูกซื้อกิจการไปโดย HP โดยมีแผนจะเปิดตัวใน Touchpad และ PC computer ในเดือน มิย และไตรมาสสี่ของปี 2554 ตามลำดับ
Like Chrome OS, which is built on top of Linux, Gazelle isn’t really a new operating system. Rather it is a layer that extends the browser’s security model down into the operating system level.--http://www.infoq.com/news/2009/07/Gazelle
ส่วน Google's native code และ Microsoft XaX เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้สามารถรัน traditional application บน web browser ได้
Web OS อีกตัวชื่อ WebOS ของ Palm ซึ่งถูกซื้อกิจการไปโดย HP โดยมีแผนจะเปิดตัวใน Touchpad และ PC computer ในเดือน มิย และไตรมาสสี่ของปี 2554 ตามลำดับ
วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2553
iPad fever drives digital magazines
1 ใน 5 สุดยอดปรากฏการณ์ iPad ฟีเวอร์ ที่หลายคนสัมผัสได้แล้วในขณะนี้ คือ การ "เป็นหมัน" ของอุตสาหกรรม eBook ฉบับภาษาไทย แต่ดาวรุ่งกลับเปลี่ยนตำแหน่งไปอยู่ที่ "Digital Magazine" หรือนิตยสารดิจิตอลแทน
Digital Magazine นั้นต่างจาก eMagazine ตรงที่อย่างหลังนั้น ตัวผู้อ่านจะต้องโหลดไฟล์พร้อมพิมพ์อยู่ในรูปแบบไฟล์นามสกุลที่เรียกว่า Portable Document Format (PDF) โดยดูบนเว็บไซต์ หรือโปรแกรมอ่านเอกสาร แต่ Digital Magazine จะเป็นนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ที่บรรจุคอนเทนท์ลงในแอปพลิเคชัน ต่อยอดให้การอ่านมีความสนุกสนานและโต้ตอบได้มากขึ้น ทำให้ผู้อ่านนิตยสารสามารถชมวิดีโอ ดูฟังโฆษณา และร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่นิตยสารดิจิตอลเล่มนั้นๆ จัดทำขึ้นมาในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ ทำให้ผู้อ่านได้อรรถรสมากกว่าแค่การอ่านแบบปกติได้อย่างตื่นตายิ่งขึ้น
Times คือ นิตยสารที่ประเดิมคลอดแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้ iPad ที่เป็นสมาชิก Times ได้ดาวน์โหลดฟรี ก่อนที่นานาสื่อที่ออกเป็นรายวัน/รายเดือน/รายปี ต่างพากันชักธงรบกระโจนเข้าสู่ตลาดนี้ เช่นเดียวกับค่ายนิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศไทยที่พร้อมใจลงเล่นในตลาดนี้แล้ว
ปรากฏการณ์ที่จะเห็นชัดเจนนับจากนี้คือ นิตยสารไทยจะไม่ได้มีแต่โฆษณาภาพนิ่งอีกต่อไป แต่สามารถแสดงในรูปแบบวิดีโอ พ่วงเครือข่ายสังคม หรือดึงข้อมูลจากระบบ CRM เพื่อโอกาสต่อยอดสู่การซื้อสินค้าได้ โดยทั้งหมดนี้ ค่ายนิตยสารจะไม่ต้องรอรอบวันเวลาวางแผงสิ่งพิมพ์อย่างที่เคย แต่จะมีโอกาสออกหนังสือได้ถี่มากขึ้นตามที่ต้องการ เนื่องจากไม่มีต้นทุนการพิมพ์ แถมสามารถวัดผลตอบรับได้ทันใจ ไม่ต้องรออีกต่อไป
ความนิยมตัวเครื่อง iPad บวกกับอิทธิพลของตลาดแอปพลิเคชันที่เกิดจากตลาดสมาร์ทโฟน ทำให้อุตสาหกรรม Digital Magazine ก้าวนำธุรกิจหนังสือดิจิตอลอื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่งแม้แต่เครื่องอ่าน eBook อย่าง Kindle จาก Amazon หรือ Nook จาก Barns&Nobel ก็ยังไม่สามารถสร้างกระแสร้อนแรงให้ค่ายหนังสือมุ่งความสนใจไปที่ตลาด eBook ได้
จุดนี้มีการวิเคราะห์กันว่า มีสาเหตุมาจากที่ eBook ไม่ขยายตัว เป็นเพราะหนังสือเล่มมีภาวะการเก็บสต็อกที่อยู่ในรูปแบบหนังสือเล่มที่มากกว่าเทปและดีวีดีด้วยซ้ำ ทำให้ Digital Magazine เกิดแรงดันในการขยายตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
--Manager.co.th
Digital Magazine นั้นต่างจาก eMagazine ตรงที่อย่างหลังนั้น ตัวผู้อ่านจะต้องโหลดไฟล์พร้อมพิมพ์อยู่ในรูปแบบไฟล์นามสกุลที่เรียกว่า Portable Document Format (PDF) โดยดูบนเว็บไซต์ หรือโปรแกรมอ่านเอกสาร แต่ Digital Magazine จะเป็นนิตยสารอิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่ที่บรรจุคอนเทนท์ลงในแอปพลิเคชัน ต่อยอดให้การอ่านมีความสนุกสนานและโต้ตอบได้มากขึ้น ทำให้ผู้อ่านนิตยสารสามารถชมวิดีโอ ดูฟังโฆษณา และร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่นิตยสารดิจิตอลเล่มนั้นๆ จัดทำขึ้นมาในรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟ ทำให้ผู้อ่านได้อรรถรสมากกว่าแค่การอ่านแบบปกติได้อย่างตื่นตายิ่งขึ้น
Times คือ นิตยสารที่ประเดิมคลอดแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้ iPad ที่เป็นสมาชิก Times ได้ดาวน์โหลดฟรี ก่อนที่นานาสื่อที่ออกเป็นรายวัน/รายเดือน/รายปี ต่างพากันชักธงรบกระโจนเข้าสู่ตลาดนี้ เช่นเดียวกับค่ายนิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศไทยที่พร้อมใจลงเล่นในตลาดนี้แล้ว
ปรากฏการณ์ที่จะเห็นชัดเจนนับจากนี้คือ นิตยสารไทยจะไม่ได้มีแต่โฆษณาภาพนิ่งอีกต่อไป แต่สามารถแสดงในรูปแบบวิดีโอ พ่วงเครือข่ายสังคม หรือดึงข้อมูลจากระบบ CRM เพื่อโอกาสต่อยอดสู่การซื้อสินค้าได้ โดยทั้งหมดนี้ ค่ายนิตยสารจะไม่ต้องรอรอบวันเวลาวางแผงสิ่งพิมพ์อย่างที่เคย แต่จะมีโอกาสออกหนังสือได้ถี่มากขึ้นตามที่ต้องการ เนื่องจากไม่มีต้นทุนการพิมพ์ แถมสามารถวัดผลตอบรับได้ทันใจ ไม่ต้องรออีกต่อไป
ความนิยมตัวเครื่อง iPad บวกกับอิทธิพลของตลาดแอปพลิเคชันที่เกิดจากตลาดสมาร์ทโฟน ทำให้อุตสาหกรรม Digital Magazine ก้าวนำธุรกิจหนังสือดิจิตอลอื่นๆ ในประเทศไทย ซึ่งแม้แต่เครื่องอ่าน eBook อย่าง Kindle จาก Amazon หรือ Nook จาก Barns&Nobel ก็ยังไม่สามารถสร้างกระแสร้อนแรงให้ค่ายหนังสือมุ่งความสนใจไปที่ตลาด eBook ได้
จุดนี้มีการวิเคราะห์กันว่า มีสาเหตุมาจากที่ eBook ไม่ขยายตัว เป็นเพราะหนังสือเล่มมีภาวะการเก็บสต็อกที่อยู่ในรูปแบบหนังสือเล่มที่มากกว่าเทปและดีวีดีด้วยซ้ำ ทำให้ Digital Magazine เกิดแรงดันในการขยายตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
--Manager.co.th
วาจาจริงที่พูดในกาลเทศะที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่สมควรทำ
พระสมณโคดมทรงให้แนวทางดังกล่าวไว้ แม้วาจาจริงอาจไม่เป็นที่พอใจผู้ฟัง แต่พระพุทธเจ้าก็ตรัสด้วยความเมตตากรุณาต่อผู้ฟังนั้น จึงอุปมาผู้ฟังเหมือนเด็กกินก้อนหิน เราเห็นต้องช่วยแม้ทำให้เด็กเจ็บก็ตาม
NFC (Near Field Communication)
คือ standard wireless communication technology ที่่ต่อยอดมาจาก RFID เพื่อรวมความสามารถในการเป็น Contactless smartcard และ Smartcard reader เข้าไว้ในตัว ปัจจุบันถูกนำมาใช้ในตัวโทรศัพท์มือถือ เช่น Google's Nexus S และ Nokia บางรุ่น ทำให้มือถือมีความสามารถเป็น Contactless smartcard + Smartcard reader + RFID tag ภายในตัว ตัวอย่างการประยุกต์ใช้งานจริงในญี่ปุ่นที่เห็นตั้งแต่ปี 2006 คือการใช้โทรศัพท์มือถือเป็น e-Wallet สัมผัสเพื่อผ่า่นประตูเข้าออกรถไฟฟ้าในโตเกียว บริการดังกล่าวชื่อ Mobile Suica
More info http://www.nearfieldcommunicationsworld.com
ตัวอย่างการทดลองใช้งานจริงในประเทศไทย :
Gemalto (Euronext NL0000400653 GTO), the world leader in digital security, today announced it will provide its Trusted Services Management (TSM) service to support the launch of Near-Field Communication (NFC) applications in Thailand. The service is the first pan-Asian deployment for Gemalto’s certified TSM center in Taiwan. This pioneering project has Gemalto partnering with KASIKORNBANK, the country’s second largest bank, and with Advanced Info Services (AIS), the nation’s largest telecommunications operator.
"เวลคอม (Wellcom) ถือเป็นผู้ผลิตมือถือรายแรกที่รุกระบบกระเป๋าสตางค์บนมือถือ (Mobile Wallet) ด้วยเทคโนโลยี NFC เหมือนกับ Google Wallet ของกูเกิล โดยเวลคอมได้จับมือกับบริษัทสมาร์ทเพิร์ส (Smart Purse) ผู้ทำระบบบัตรเงินสดที่ใช้อย่างแพร่หลายในการซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 หรือบัตรอัจฉริยะขององค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นการย่อส่วนนำเฉพาะชิป NFC จากในบัตรนั้นมาฝังลงในมือถือ และเขียนโปรแกรมจาวาเข้าไปติดตั้งในเครื่องมือถือเพื่อให้สั่งงานการเติมเงิน/จ่ายเงินได้จากมือถือ เวลาใช้งานซื้อของก็เพียงนำมือถือไปแตะที่จุดแตะการ์ดนั่นเอง"
More info http://www.nearfieldcommunicationsworld.com
--http://rapidnfc.com/blog/72/the_difference_between_nfc_and_rfid_explained
ตัวอย่างการทดลองใช้งานจริงในประเทศไทย :
Gemalto (Euronext NL0000400653 GTO), the world leader in digital security, today announced it will provide its Trusted Services Management (TSM) service to support the launch of Near-Field Communication (NFC) applications in Thailand. The service is the first pan-Asian deployment for Gemalto’s certified TSM center in Taiwan. This pioneering project has Gemalto partnering with KASIKORNBANK, the country’s second largest bank, and with Advanced Info Services (AIS), the nation’s largest telecommunications operator.
Mobile NFC opens up an entire new dimension in digital freedom for Thai consumers, transforming their mobile phones into contactless devices for touch-and-go applications, such as payment at retail outlet partners. Since starting in July 2010, selected customers simply collect their phone from KASIKORNBANK to enjoy mobile NFC services.
Gemalto is entrusted with the management and preparation of sensitive user information from KASIKORNBANK to operate secure over-the-air (OTA) personalization services that enable mobile subscribers to gain access to NFC payments and AIS services.
“With the ubiquitous nature of mobile phones, we are always looking for innovations to improve our offerings to our customers,” commented Mr.Suvit Arayawilaipong, Vice President Product & Service Development, Advanced Info Service Plc. ”This is the first OTA provisioning service that is offered from outside the country. It allows NFC to be deployed in Thailand smoothly and securely. With Gemalto we are working with a partner that we can trust.”
Mr. Art Wichiencharoen, Senior VP of Retail and SME e-Business, KASIKORNBANK, added: “Leveraging Gemalto’s experience, we are able to make NFC payment easy to use. We have a simple user interface on the phone that guides a user to some 40 retail outlets where they can immediately perform mobile NFC payments like for food, entertainment and grocery shopping. They will appreciate this fast and fuss-free new means of payment.”
“With KASIKORNBANK and AIS we are able to bring the convenience of mobile NFC sooner and in a secure manner to Thai consumers,” stated Mr Tan Teck-Lee, President, Gemalto Asia. “Gemalto’s TSM services are designed to be implemented securely across national borders and this will help countries to overcome local barriers to NFC implementations. Gemalto is clearly the partner of choice, having the most extensive experience in NFC launches and numerous pilot programs active across the world.”
วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553
Paradigm Shift: Research and market trend
[1G] Centralized computing : i.e. mainframe and dumb terminals
[2G] Distributed computing (Client-server computing) : e.g. traditional WWW, P2P
[3G] Mobile computing (VS. Stationary computings 1G & 2G) : i.e. local standalone mobile applications (iPhone/iPad/Android app., Andriod-platform tablets, Windows7-platform tablets e.g. Acer ICONIA, Windows Phone 7 e.g. ASUS E600, etc.), client-server mobile applications
[4G] Pervasive computing : aka. Ubiquitous computing = 1G + 2G + 3G + Embedded computing e.g. NFC (Near Field Communication), RFID
[5G] Cloud computing (VS. On-premise computings 1G & 2G & 3G) : e.g. Amazon Web Services, MS Azure, Google AppEngine, Apple's iCloud, social network is also Cloud application; another cloud service is AMD Fusion Render Cloud, a super GPU service for online game rendering; convergence phenomenon with Social computing and Volunteer computing (SETI@home) is Social cloud computing; social commerce (groupon, living social, facebook deals) is also cloud service.
[6G] Mobile Cloud computing (VS. Thick/Thin-client cloud computing) e.g. Web-OS tablets (HP's Topaz & Opal), location-based service (Foursquare, Koprol), Apple's iOS5
[7G] Pervasive Cloud computing : = 4G + 5G
[8G] BioPervasive computing : 7G extended into inside the humans' bodies
--By blog's author
[2G] Distributed computing (Client-server computing) : e.g. traditional WWW, P2P
[3G] Mobile computing (VS. Stationary computings 1G & 2G) : i.e. local standalone mobile applications (iPhone/iPad/Android app., Andriod-platform tablets, Windows7-platform tablets e.g. Acer ICONIA, Windows Phone 7 e.g. ASUS E600, etc.), client-server mobile applications
[4G] Pervasive computing : aka. Ubiquitous computing = 1G + 2G + 3G + Embedded computing e.g. NFC (Near Field Communication), RFID
[5G] Cloud computing (VS. On-premise computings 1G & 2G & 3G) : e.g. Amazon Web Services, MS Azure, Google AppEngine, Apple's iCloud, social network is also Cloud application; another cloud service is AMD Fusion Render Cloud, a super GPU service for online game rendering; convergence phenomenon with Social computing and Volunteer computing (SETI@home) is Social cloud computing; social commerce (groupon, living social, facebook deals) is also cloud service.
[6G] Mobile Cloud computing (VS. Thick/Thin-client cloud computing) e.g. Web-OS tablets (HP's Topaz & Opal), location-based service (Foursquare, Koprol), Apple's iOS5
[7G] Pervasive Cloud computing : = 4G + 5G
[8G] BioPervasive computing : 7G extended into inside the humans' bodies
--By blog's author
การป้องกันกรรมตัดรอนอายุไข
สัมภเวสี คือว่าคนที่ตายแล้วยังไม่ถึงอายุขัย เรียกว่ามีกรรมที่เรียกกันว่าอุปฆาตกรรมเข้ามาริดรอนตัดรอนเสียตั้งแต่ยังไม่หมดอายุขัย ท่านพวกนี้เวลาตายแล้วทางนรกไม่ต้องการ ทางสวรรค์ไม่ต้องการ บุญที่ทำไว้ยังไม่ให้ผล หรือว่าบาปที่เขาทำยังไม่ให้ผล ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเรียกเข้าไปสอบสวนและจัดการลงโทษ มีสภาพเหมือนกับคนออกจากบ้านนี้แล้วเข้าบ้านโน้นไม่ได้ จะกลับเข้าบ้านนี้ก็ไม่ได้ เดินไปเดินมาไม่ใช่ว่าแบบหนุ่มเจ้าสำราญนะ เดินแบบลำบาก หาอะไรกินไม่ได้ ผีประเภทนี้เราเรียกกันว่าสัมภเวสี แปลว่าพวกแสวงหาที่เกิด หมายความว่าแสวงหาที่อยู่แน่นอน บรรดาคนที่ตายในสภาพนี้ ที่บรรดาหมอผีทั้งหลายชอบเรียกเอาไปเลี้ยงก็เพราะว่าเขาเป็นคนหิว เขาไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีอาหารเป็นเครื่องบริโภค ในเมื่อสภาพของเขาเป็นคนหิวแบบนี้แล้วใครชวนก็ไป ก็แบบเดียวกับเรา เราก็เหมือนกัน เมื่อที่อยู่ไม่มี ใครชวนไปอยู่ด้วยก็ไป ไปทำไม? ไปเพื่อประทังชีวิตให้มีความสุข พวกนี้ต้องการเครื่องเซ่นสรวงบูชา แล้วสำหรับคนที่ตายประเภทนี้ ที่หมอเขาบอกว่าสะเดาะเคราะห์ได้จะไม่ตาย นี่เป็นความจริงเพราะว่ากรรมที่กระทำให้พวกเขาตาย เรียกว่าอุปฆาตกรรม กรรมเข้ามาตัดรอนในระหว่างอายุขัย ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะต้องตาย แต่ถ้าหากว่า เราทำความดีอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะเป็นการชดเชยกับความชั่วที่จะเข้ามาริดรอนเสียได้ อายุเข้าก็จะยืนต่อไป ที่เรียกกันว่าการต่ออายุ
เมื่อท่านทราบชัดว่า กรรมเดิมมีอะไรบ้างที่จะเข้าริดรอน ท่านก็จะสอบถามว่ากฎกรรมประเภทนี้ จะต้องชดใช้ด้วยอะไร เมื่อทราบชัดท่านก็จะบอกให้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเฉพาะพระเท่านั้นที่จะรู้ ฆราวาสที่เขารู้ก็มีถมไป ฆราวาสสมัยนี้ มีความดีจนพระควรจะอายมีเยอะ มีไม่น้อย เป็นอันว่าถ้าใช้ถูกจังหวะ ราคาก็ไม่แพง และผลก็จะได้สมความปรารถนาที่เขาจะต้องตายไป ก่อนที่เขาจะหมดอายุขัย ก็เพราะไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้ ตานี้ เรื่องการสะเดาะเคราะห์หรือการต่ออายุก็ต้องดูกันใหม่ ดูกันไปว่าควรไม่ควรเพียงใด คนที่ถึงอายุขัยแล้วต่อไม่ไหว พุทธเจ้าไม่เคยต่ออายุใครนี่ แล้วทำไมมาแนะนำให้ชาวบ้านต่ออายุ ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทสงสัยตอนนี้ละก็ไปเปิดพระธรรมบทดู ที่บอกให้เปิดธรรมบทที่เขาลงท้ายว่าขุททกะ ขุททกนิกาย นิกายแปลว่าหมู่ ขุททกะแปลว่าเล็กๆ น้อยๆ คือเรื่องราวที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เล็กๆ น้อยๆ กระจุ๋มกระจิ๋มเป็นวิชาเกล็ด ท่านพุทธโฆษาจารย์ท่านรวมไว้อีกจุดหนึ่งแล้วไปเปิดดูเรื่องอายุวัฒนกุมาร ว่าพระพุทธเจ้าเป็นหมดดูหรือเปล่า แล้วก็พระพุทธเจ้าเป็นนักต่ออายุคนหรือเปล่า นี่นักสมถวิปัสสนา นักเข้าวัดละมักจะสวดพระสวดคนที่เขาทำสมถกรรมฐาน เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถ้าใครเขาดูด้วยอำนาจของญาณ ทำพิธีกรรมละบอกว่านอกรีตนอกรอย ทำไม่ถูก พระพุทธเจ้า สอนไว้ว่าการเป็นหมอดูเป็นไม่ได้ ทำพิธีกรรมแบบนี้ทำไม่ได้ คนเมื่อจะถึงคราวตายเป็นอำนาจกฎของกรรม ทำแล้วมันไม่ถูกนอกรีตนอกรอยนอกประเพณี นอกคำสอนของพระพุทธเจ้า นี่แหละบรรดาญาติโยมคนรู้มากก็ยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ แต่ว่าคนพึ่งคลานได้นี่ซิ กลับไปด่าคนพึ่งคลานได้แบบนี้ นี่ซิ กลับไปด่าคนที่เขาวิ่งแข็งแล้วว่าทำไม่ถูก คนเกิดมาจะต้องคลานอย่างนี้ นี่ซิ มันเป็นแบบนี้ ลักษณะแบบนี้มันมีอยู่มาก อ่านหนังสือไม่ทันจะจบ ตานี้ถ้าไปดูเรื่องอายุวัฒนกุมาร อายุวัฒนกุมารนี่เกิดมาเป็นเด็กตัวเล็กๆ ยังไม่ ๗ ขวบ นั่งไม่ได้ จะต้องตายในระหว่างนั้น พ่อแม่ของอายุวัฒนกุมาร มีลูกเป็นคนแรก มีพราหมณ์อยู่คนหนึ่งเป็นเพื่อนกัน พราหมณ์คนนี้ แกได้ทิพยจักขุญาณ แกได้ญาณต่าง ๆ มีอตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ก็ว่ากันไปตามเรื่อง แต่ว่ากำลังญาณ กำลังญาณของแกยังอ่อนกว่าพระพุทธเจ้า แกรู้ตัวว่าแกสู้พระพุทธเจ้าไม่ได้ แกก็ยอมรับว่าพระพุทธเจ้าดีกว่าแก สองคนตายายพ่อแม่ของเด็กอายุวัฒนกุมารคนนี้ ทราบข่าวว่าเพื่อนฤาษีคนนี้เข้ามาในเขตของเมือง ก็พากันไปหา เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน เมื่อคุยกันด้วยดีพอสมควรแก่เวลา ท่านพ่อก็ส่งลูกให้แก่แม่ กราบลาเพื่อนกลับ เพื่อนก็บอกว่าท่านจงมีอายุยืนยาว ทีฆายุโก โหตุ นะ ภาษาบาลี นึกจะไม่พูดให้ฟัง เพราะภาษาบาลีมันขัดคอคนฟัง ทีฆายุโก โหตุ ท่านจงมีอายุยืนยาวเถิด ตานี้เมื่อท่านพ่อกราบลาแล้ว ท่านแม่ก็ส่งลูกให้ท่านพ่อ ท่านแม่กราบบ้าง ท่านพราหมณ์ก็ว่าอย่างนั้น ว่า ขอให้ท่านเป็นผู้มีอายุยืนยาว อีตอนหลัง ก็จับลูกของเขาให้กราบ ลุงพราหมณ์คนนี้แกนิ่งเฉย แกไม่พูดแบบนั้น ท่านพ่อท่านแม่แกก็สงสัยว่า เอ๊ะ ! นี่เรากราบเพื่อนของเรา บอกว่าจงเป็นผู้มีอายุยืนยาว แต่ว่าเวลาที่เราให้ลูกชายของเรากราบ เอาละซีเพื่อนนิ่งเสีย สงสัย ถามว่าเวลาที่ผมกับเมียกราบท่าน ลาท่าน ท่านบอกว่าจงเป็นผู้มีอายุยืนยาว แต่เวลาที่ให้ลูกกราบทำไมจึงนิ่งเฉย ๆ ท่านพราหมณ์ก็บอกว่า ก็ลูกของแกอายุมันไม่ยาวนี่ จะต้องตายภายใน ๗ วัน ถ้าหากว่าฉันพูดแบบนั้นฉันก็พูดผิดน่ะซิ ไม่ได้แล้ว ฉันไม่พูด เขาก็เลยถามว่า ท่านรู้วิธีแก้ไหม ท่านพราหมณ์ก็เลยบอกว่าไอ้รู้ว่าจะตายน่ะรู้ แต่วิธีแก้น่ะ ไม่รู้หรอก คนที่รู้วิธีแก้มีอยู่คนเดียว คือรู้วิธีแก้ไม่ผิด คือพระสมณโคดม พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าหากว่าท่านต้องการจะแก้ไม่ให้ลูกของท่านตายละก็ไปหาพระสมณโคดมเถิด ท่านแก้ได้ นี่คนโบราณที่เขาดีจริง ๆ น่ะเขาดี เขาไม่ได้ทะนงตัวนะ ว่าเขาดีแค่นี้ละก้อไม่มีคนดีกว่าเขา ไม่เหมือนบรรดาอาจารย์สมัยปัจจุบัน หวงลูกศิษย์กันนัก ลูกศิษย์ของตัวจะไปหาใครละบอกว่าอย่าเชียวนะ อย่า มาหาฉันแล้วจะไปหาคนอื่นไม่ได้นะ รดน้ำมนต์จากฉันแล้วอย่าไปให้คนอื่นรดเชียวนะ มาเป็นลูกศิษย์ฉันแล้ว อย่าไปเป็นลูกศิษย์คนอื่นเดี๋ยวจะพากันเลอะเทอะ ไม่ได้ของฉันเป็นผู้วิเศษ ดีไม่ดี เป่าขม่อมไปให้แล้วละก้อ อย่าไปให้ใครเป่าทับเชียวนะ ถ้าใครเขาเหาะเหินเดินอากาศไม่ได้ละก็อย่าเชียวแน่ะ เอาเข้ายังนั้น พรรคพวกเรามันเป็นยังงี้นะโยมนะ พรรคพวกเราเป็นแบบนี้อยู่เสมอ ที่ดีท่านก็มี ที่เป็นประเภทนี้ก็มีมาก
ตานี้เมื่อพราหมณ์ ๒ ตายายพ่อแม่ของเด็กทราบว่า เด็กจะตายใน ๗ วัน ก็ตกใจ เพราะเป็นลูกคนแรก ลูกผู้ชายเสียด้วย ออกจากสำนักของพราหมณ์เพื่อนที่แนะนำก็พากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พอไปถึงสำนักของพระพุทธเจ้า ก็ทำแบบนั้นแหละ เวลาลากลับพระพุทธเจ้าก็พูดเหมือนกับพราหมณ์ อีตอนลูกชายลาท่านก็เฉยเสีย พราหมณ์ก็ถาม ท่านก็บอกว่าลูกชายคนนี้จะตายภายใน ๗ วัน เขาก็ถามว่าทำยังไงจึงจะแก้ไขไม่ให้ตายได้เล่าพระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าบอกว่าได้ ถ้าต้องการแบบนั้นได้ เพราะกรรมประเภทนี้เป็นอุปฆาตกรรม ไม่ใช่อายุขัย ถ้าอายุขัยตถาคตก็แก้ไม่ได้ คือเป็นกรรมที่เข้ามาแทรกระหว่างกลาง ซึ่งผลของความดีเด็กนี้ยังมีอยู่มาก ถ้าไม่ตายก่อน จะได้เป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา แล้วจะมีอายุถึง ๑๒๐ ปี แต่อาศัยเวลานี้ กรรมที่เป็นอกุศลเข้ามาริดรอน จึงเป็นเหตุให้เด็กคนนี้จะต้องตายใน ๗ วัน เมื่อเขาทราบชัดก็ถามสมเด็จพระทรงธรรมว่า ทำยังไงจึงจะไม่ให้เด็กตายพระพุทธเจ้าข้า ท่านก็ตรัสแนะว่าพราหมณ์กลับไปบ้านไปทำโรงพิธีเข้าแล้วก็นิมนต์พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาไปนั่งล้อมเจริญพระปริตรตลอด ๗ วัน เมื่อทำได้อย่างนี้ละก็ลูกของท่านจะพ้นจากความตาย ไอ้เรื่องกลัวเปลืองไม่มีสำหรับคนที่ลูกจะตาย ก็เลยทำตามสั่ง ไปถึงก็ทำโรงพิธีเข้า นิมนต์พระไป พระสมัยนั้นมีมาก ไปนั่งล้อมกันไม่ต้องให้สายสิญจน์ เมื่อล้อมกันแล้วก็เจริญพระปริตร สวดบ้างไม่สวดบ้าง แต่ก็นั่งล้อมกันแบบนั้น พระมาสับเปลี่ยนกันไป ไม่ใช่ไปชุดเดียวแล้วนั่งเจ็ดวันเจ็ดคืน มันคงแย่เหมือนกัน พอถึงวันที่เจ็ดปรากฏว่าพระพุทธเจ้าเสด็จเอง แล้วเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ พรหมก็มา เทวดาก็มา แล้วคนที่จะเอาชีวิตของเด็กก็เป็นยักษ์ธรรมดา ๆ เป็นลูกน้องของท้าวเวสสุวัณณ์ อีตอนนี้เอง ในเมื่อเจ้านายชั้นผู้ใหญ่มา พลทหารก็ต้องไปยืนสุดกู่ องค์สมเด็จพระบรมครูก็นั่งอยู่จนครบรอบของวันที่ ๗ คือเริ่มต้นของวันท่านก็ไปนั่งจนที่สุดของวันคืออรุณใหม่ เพราะว่ายักษ์ตนนี้ได้รับพรจากท้าวเวสสุวัณณ์ว่าจะมาเอาขีวิตของเด็กคนนี้ได้ภายใน ๗ วัน ถ้าเลย ๗ วันแล้วไม่มีโอกาส ฉะนั้น เมื่อแกมาคอยอยู่ ๖ วันแล้วพระก็นั่งล้อมรอบอยู่แบบนั้น แกก็เข้าไม่ได้ ได้แต่ตั้งท่าว่าพระเผลอเมื่อไรจะเอาเมื่อนั้น แต่พอวันที่ ๗ วันสุดท้ายแกตั้งใจว่า วันนี้จะต้องเอาชีวิตเด็กคนนี้ให้ได้ ให้มันตายจากความเป็นมนุษย์ เพราะอะไร ? เพราะกรรมเดิมสร้างไว้มาก ที่เป็นปาณาติบาต แล้วความดีก็มีแยะ ในเมื่อเห็นท่าเอาไม่ได้แน่แล้วก็ต้องตั้งท่าให้พระเผลอ พระพุทธเจ้าเสด็จเสียเอง เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ พรหมลงมา ตายักษ์คนนี้แกก็ถอยหลังลงไปพ้นเขตพรหม เทวดาลงมาแกมีบุญน้อยกว่าแกก็ถอยหลังออกไป ในที่สุดแกต้องไปนั่งอยู่ขอบจักรวาล เพราะพรหมและเทวดามาก มีปริมาณมากแล้วสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงนั่งเสียหมดเวลา เป็นอันว่าเด็กคนนั้นไม่ต้องตายเกินเวลาเจ็ดวันยักษ์ทำอันตรายไม่ได้ นี่แหละบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายที่ติดตามรับฟังและติดตามทัศนาจรในภพต่าง ๆ กลับมาภพมนุษย์ด้วยกัน ทราบไว้ว่ากรรมที่เป็นอุปฆาตกรรม คือบรรดาสัมภเวสีพวกนี้ ที่เดินอยู่ข้างหน้า เดินเกลื่อนไปเกลื่อนมา มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคนธรรมดา เวลาที่เขาตาย เวลาที่ตายแต่งตัวแบบไหนนุ่งผ้าประเภทไหนก็แต่งตัวแบบนั้น แล้วก็สำรวยต่าง ๆ ท่าทางแข็งแรง แต่ดูเหมือนว่ามีความกังวลอยู่อย่างหนึ่ง คือมีความทุกข์ใจไม่รู้จะเกิดที่ไหน ไม่รู้จะพักผ่อนที่ไหนได้แน่นอน บรรดาสัมภเวสีพวกนี้มีความลำบาก นี่ถ้าหากว่าบรรดาเขารู้ในด้านการตัดอุปฆาตกรรมเสียได้แล้วละก็เขาจะมีความสุขมาก
ถ้าญาติของเราตาย ตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี คือไม่สิ้นอายุ ฟ้าผ่าตาย สุนัขกัดตาย มดกัดตาย ยุงกัดตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย ถูกยิงตาย รถชนตาย แต่ก็ไม่แน่นักนะ บรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี แต่เผื่อเหนี่ยวไว้ก่อน สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร เอาพระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่าให้มีเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าทุบแม้แต่ไข่สักหนึ่งฟอง เมื่อทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด ถ้าทำอย่างนี้ละท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบเมื่อเข้าถึงอายุขัย เมื่อใดก็เป็นอันว่าพวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน
สำหรับท่านอายุวัฒนะกุมารนั้น ปรากฏว่าเมื่อพ้นจากตอนนั้นมาแล้ว ถึงเวลาอายุ ๗ ขวบท่านก็เป็นสามเณร บวชเณร แล้วก็ได้อรหัตผลอยู่มาได้อายุ ๑๒๐ ปี ตรงตามที่องค์สมเด็จพระมหามุนีทรงตรัส
เมื่อท่านทราบชัดว่า กรรมเดิมมีอะไรบ้างที่จะเข้าริดรอน ท่านก็จะสอบถามว่ากฎกรรมประเภทนี้ จะต้องชดใช้ด้วยอะไร เมื่อทราบชัดท่านก็จะบอกให้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเฉพาะพระเท่านั้นที่จะรู้ ฆราวาสที่เขารู้ก็มีถมไป ฆราวาสสมัยนี้ มีความดีจนพระควรจะอายมีเยอะ มีไม่น้อย เป็นอันว่าถ้าใช้ถูกจังหวะ ราคาก็ไม่แพง และผลก็จะได้สมความปรารถนาที่เขาจะต้องตายไป ก่อนที่เขาจะหมดอายุขัย ก็เพราะไม่มีความเข้าใจในเรื่องนี้ ตานี้ เรื่องการสะเดาะเคราะห์หรือการต่ออายุก็ต้องดูกันใหม่ ดูกันไปว่าควรไม่ควรเพียงใด คนที่ถึงอายุขัยแล้วต่อไม่ไหว พุทธเจ้าไม่เคยต่ออายุใครนี่ แล้วทำไมมาแนะนำให้ชาวบ้านต่ออายุ ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทสงสัยตอนนี้ละก็ไปเปิดพระธรรมบทดู ที่บอกให้เปิดธรรมบทที่เขาลงท้ายว่าขุททกะ ขุททกนิกาย นิกายแปลว่าหมู่ ขุททกะแปลว่าเล็กๆ น้อยๆ คือเรื่องราวที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เล็กๆ น้อยๆ กระจุ๋มกระจิ๋มเป็นวิชาเกล็ด ท่านพุทธโฆษาจารย์ท่านรวมไว้อีกจุดหนึ่งแล้วไปเปิดดูเรื่องอายุวัฒนกุมาร ว่าพระพุทธเจ้าเป็นหมดดูหรือเปล่า แล้วก็พระพุทธเจ้าเป็นนักต่ออายุคนหรือเปล่า นี่นักสมถวิปัสสนา นักเข้าวัดละมักจะสวดพระสวดคนที่เขาทำสมถกรรมฐาน เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถ้าใครเขาดูด้วยอำนาจของญาณ ทำพิธีกรรมละบอกว่านอกรีตนอกรอย ทำไม่ถูก พระพุทธเจ้า สอนไว้ว่าการเป็นหมอดูเป็นไม่ได้ ทำพิธีกรรมแบบนี้ทำไม่ได้ คนเมื่อจะถึงคราวตายเป็นอำนาจกฎของกรรม ทำแล้วมันไม่ถูกนอกรีตนอกรอยนอกประเพณี นอกคำสอนของพระพุทธเจ้า นี่แหละบรรดาญาติโยมคนรู้มากก็ยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ แต่ว่าคนพึ่งคลานได้นี่ซิ กลับไปด่าคนพึ่งคลานได้แบบนี้ นี่ซิ กลับไปด่าคนที่เขาวิ่งแข็งแล้วว่าทำไม่ถูก คนเกิดมาจะต้องคลานอย่างนี้ นี่ซิ มันเป็นแบบนี้ ลักษณะแบบนี้มันมีอยู่มาก อ่านหนังสือไม่ทันจะจบ ตานี้ถ้าไปดูเรื่องอายุวัฒนกุมาร อายุวัฒนกุมารนี่เกิดมาเป็นเด็กตัวเล็กๆ ยังไม่ ๗ ขวบ นั่งไม่ได้ จะต้องตายในระหว่างนั้น พ่อแม่ของอายุวัฒนกุมาร มีลูกเป็นคนแรก มีพราหมณ์อยู่คนหนึ่งเป็นเพื่อนกัน พราหมณ์คนนี้ แกได้ทิพยจักขุญาณ แกได้ญาณต่าง ๆ มีอตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ก็ว่ากันไปตามเรื่อง แต่ว่ากำลังญาณ กำลังญาณของแกยังอ่อนกว่าพระพุทธเจ้า แกรู้ตัวว่าแกสู้พระพุทธเจ้าไม่ได้ แกก็ยอมรับว่าพระพุทธเจ้าดีกว่าแก สองคนตายายพ่อแม่ของเด็กอายุวัฒนกุมารคนนี้ ทราบข่าวว่าเพื่อนฤาษีคนนี้เข้ามาในเขตของเมือง ก็พากันไปหา เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน เมื่อคุยกันด้วยดีพอสมควรแก่เวลา ท่านพ่อก็ส่งลูกให้แก่แม่ กราบลาเพื่อนกลับ เพื่อนก็บอกว่าท่านจงมีอายุยืนยาว ทีฆายุโก โหตุ นะ ภาษาบาลี นึกจะไม่พูดให้ฟัง เพราะภาษาบาลีมันขัดคอคนฟัง ทีฆายุโก โหตุ ท่านจงมีอายุยืนยาวเถิด ตานี้เมื่อท่านพ่อกราบลาแล้ว ท่านแม่ก็ส่งลูกให้ท่านพ่อ ท่านแม่กราบบ้าง ท่านพราหมณ์ก็ว่าอย่างนั้น ว่า ขอให้ท่านเป็นผู้มีอายุยืนยาว อีตอนหลัง ก็จับลูกของเขาให้กราบ ลุงพราหมณ์คนนี้แกนิ่งเฉย แกไม่พูดแบบนั้น ท่านพ่อท่านแม่แกก็สงสัยว่า เอ๊ะ ! นี่เรากราบเพื่อนของเรา บอกว่าจงเป็นผู้มีอายุยืนยาว แต่ว่าเวลาที่เราให้ลูกชายของเรากราบ เอาละซีเพื่อนนิ่งเสีย สงสัย ถามว่าเวลาที่ผมกับเมียกราบท่าน ลาท่าน ท่านบอกว่าจงเป็นผู้มีอายุยืนยาว แต่เวลาที่ให้ลูกกราบทำไมจึงนิ่งเฉย ๆ ท่านพราหมณ์ก็บอกว่า ก็ลูกของแกอายุมันไม่ยาวนี่ จะต้องตายภายใน ๗ วัน ถ้าหากว่าฉันพูดแบบนั้นฉันก็พูดผิดน่ะซิ ไม่ได้แล้ว ฉันไม่พูด เขาก็เลยถามว่า ท่านรู้วิธีแก้ไหม ท่านพราหมณ์ก็เลยบอกว่าไอ้รู้ว่าจะตายน่ะรู้ แต่วิธีแก้น่ะ ไม่รู้หรอก คนที่รู้วิธีแก้มีอยู่คนเดียว คือรู้วิธีแก้ไม่ผิด คือพระสมณโคดม พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าหากว่าท่านต้องการจะแก้ไม่ให้ลูกของท่านตายละก็ไปหาพระสมณโคดมเถิด ท่านแก้ได้ นี่คนโบราณที่เขาดีจริง ๆ น่ะเขาดี เขาไม่ได้ทะนงตัวนะ ว่าเขาดีแค่นี้ละก้อไม่มีคนดีกว่าเขา ไม่เหมือนบรรดาอาจารย์สมัยปัจจุบัน หวงลูกศิษย์กันนัก ลูกศิษย์ของตัวจะไปหาใครละบอกว่าอย่าเชียวนะ อย่า มาหาฉันแล้วจะไปหาคนอื่นไม่ได้นะ รดน้ำมนต์จากฉันแล้วอย่าไปให้คนอื่นรดเชียวนะ มาเป็นลูกศิษย์ฉันแล้ว อย่าไปเป็นลูกศิษย์คนอื่นเดี๋ยวจะพากันเลอะเทอะ ไม่ได้ของฉันเป็นผู้วิเศษ ดีไม่ดี เป่าขม่อมไปให้แล้วละก้อ อย่าไปให้ใครเป่าทับเชียวนะ ถ้าใครเขาเหาะเหินเดินอากาศไม่ได้ละก็อย่าเชียวแน่ะ เอาเข้ายังนั้น พรรคพวกเรามันเป็นยังงี้นะโยมนะ พรรคพวกเราเป็นแบบนี้อยู่เสมอ ที่ดีท่านก็มี ที่เป็นประเภทนี้ก็มีมาก
ตานี้เมื่อพราหมณ์ ๒ ตายายพ่อแม่ของเด็กทราบว่า เด็กจะตายใน ๗ วัน ก็ตกใจ เพราะเป็นลูกคนแรก ลูกผู้ชายเสียด้วย ออกจากสำนักของพราหมณ์เพื่อนที่แนะนำก็พากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พอไปถึงสำนักของพระพุทธเจ้า ก็ทำแบบนั้นแหละ เวลาลากลับพระพุทธเจ้าก็พูดเหมือนกับพราหมณ์ อีตอนลูกชายลาท่านก็เฉยเสีย พราหมณ์ก็ถาม ท่านก็บอกว่าลูกชายคนนี้จะตายภายใน ๗ วัน เขาก็ถามว่าทำยังไงจึงจะแก้ไขไม่ให้ตายได้เล่าพระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าบอกว่าได้ ถ้าต้องการแบบนั้นได้ เพราะกรรมประเภทนี้เป็นอุปฆาตกรรม ไม่ใช่อายุขัย ถ้าอายุขัยตถาคตก็แก้ไม่ได้ คือเป็นกรรมที่เข้ามาแทรกระหว่างกลาง ซึ่งผลของความดีเด็กนี้ยังมีอยู่มาก ถ้าไม่ตายก่อน จะได้เป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา แล้วจะมีอายุถึง ๑๒๐ ปี แต่อาศัยเวลานี้ กรรมที่เป็นอกุศลเข้ามาริดรอน จึงเป็นเหตุให้เด็กคนนี้จะต้องตายใน ๗ วัน เมื่อเขาทราบชัดก็ถามสมเด็จพระทรงธรรมว่า ทำยังไงจึงจะไม่ให้เด็กตายพระพุทธเจ้าข้า ท่านก็ตรัสแนะว่าพราหมณ์กลับไปบ้านไปทำโรงพิธีเข้าแล้วก็นิมนต์พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาไปนั่งล้อมเจริญพระปริตรตลอด ๗ วัน เมื่อทำได้อย่างนี้ละก็ลูกของท่านจะพ้นจากความตาย ไอ้เรื่องกลัวเปลืองไม่มีสำหรับคนที่ลูกจะตาย ก็เลยทำตามสั่ง ไปถึงก็ทำโรงพิธีเข้า นิมนต์พระไป พระสมัยนั้นมีมาก ไปนั่งล้อมกันไม่ต้องให้สายสิญจน์ เมื่อล้อมกันแล้วก็เจริญพระปริตร สวดบ้างไม่สวดบ้าง แต่ก็นั่งล้อมกันแบบนั้น พระมาสับเปลี่ยนกันไป ไม่ใช่ไปชุดเดียวแล้วนั่งเจ็ดวันเจ็ดคืน มันคงแย่เหมือนกัน พอถึงวันที่เจ็ดปรากฏว่าพระพุทธเจ้าเสด็จเอง แล้วเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ พรหมก็มา เทวดาก็มา แล้วคนที่จะเอาชีวิตของเด็กก็เป็นยักษ์ธรรมดา ๆ เป็นลูกน้องของท้าวเวสสุวัณณ์ อีตอนนี้เอง ในเมื่อเจ้านายชั้นผู้ใหญ่มา พลทหารก็ต้องไปยืนสุดกู่ องค์สมเด็จพระบรมครูก็นั่งอยู่จนครบรอบของวันที่ ๗ คือเริ่มต้นของวันท่านก็ไปนั่งจนที่สุดของวันคืออรุณใหม่ เพราะว่ายักษ์ตนนี้ได้รับพรจากท้าวเวสสุวัณณ์ว่าจะมาเอาขีวิตของเด็กคนนี้ได้ภายใน ๗ วัน ถ้าเลย ๗ วันแล้วไม่มีโอกาส ฉะนั้น เมื่อแกมาคอยอยู่ ๖ วันแล้วพระก็นั่งล้อมรอบอยู่แบบนั้น แกก็เข้าไม่ได้ ได้แต่ตั้งท่าว่าพระเผลอเมื่อไรจะเอาเมื่อนั้น แต่พอวันที่ ๗ วันสุดท้ายแกตั้งใจว่า วันนี้จะต้องเอาชีวิตเด็กคนนี้ให้ได้ ให้มันตายจากความเป็นมนุษย์ เพราะอะไร ? เพราะกรรมเดิมสร้างไว้มาก ที่เป็นปาณาติบาต แล้วความดีก็มีแยะ ในเมื่อเห็นท่าเอาไม่ได้แน่แล้วก็ต้องตั้งท่าให้พระเผลอ พระพุทธเจ้าเสด็จเสียเอง เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ พรหมลงมา ตายักษ์คนนี้แกก็ถอยหลังลงไปพ้นเขตพรหม เทวดาลงมาแกมีบุญน้อยกว่าแกก็ถอยหลังออกไป ในที่สุดแกต้องไปนั่งอยู่ขอบจักรวาล เพราะพรหมและเทวดามาก มีปริมาณมากแล้วสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงนั่งเสียหมดเวลา เป็นอันว่าเด็กคนนั้นไม่ต้องตายเกินเวลาเจ็ดวันยักษ์ทำอันตรายไม่ได้ นี่แหละบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายที่ติดตามรับฟังและติดตามทัศนาจรในภพต่าง ๆ กลับมาภพมนุษย์ด้วยกัน ทราบไว้ว่ากรรมที่เป็นอุปฆาตกรรม คือบรรดาสัมภเวสีพวกนี้ ที่เดินอยู่ข้างหน้า เดินเกลื่อนไปเกลื่อนมา มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคนธรรมดา เวลาที่เขาตาย เวลาที่ตายแต่งตัวแบบไหนนุ่งผ้าประเภทไหนก็แต่งตัวแบบนั้น แล้วก็สำรวยต่าง ๆ ท่าทางแข็งแรง แต่ดูเหมือนว่ามีความกังวลอยู่อย่างหนึ่ง คือมีความทุกข์ใจไม่รู้จะเกิดที่ไหน ไม่รู้จะพักผ่อนที่ไหนได้แน่นอน บรรดาสัมภเวสีพวกนี้มีความลำบาก นี่ถ้าหากว่าบรรดาเขารู้ในด้านการตัดอุปฆาตกรรมเสียได้แล้วละก็เขาจะมีความสุขมาก
ถ้าญาติของเราตาย ตายด้วยอำนาจของสัมภเวสี คือไม่สิ้นอายุ ฟ้าผ่าตาย สุนัขกัดตาย มดกัดตาย ยุงกัดตาย คลอดบุตรตาย ถูกฆ่าตาย ถูกยิงตาย รถชนตาย แต่ก็ไม่แน่นักนะ บรรดาพวกนี้ถึงอายุขัยก็มี แต่เผื่อเหนี่ยวไว้ก่อน สมมุติว่าเขาเป็นสัมภเวสี พอตายไปแล้วไม่ต้องทำบุญมาก ทำบุญให้ได้บุญชัดๆ หาอาหารชนิดที่ไม่มีบาป เอาผ้าไตรมา ๑ ไตร เอาพระพุทธรูปมา ๑ องค์ นิมนต์พระมารับสังฆทานที่บ้าน ทำเงียบๆ อย่าให้มีเหล้ายาปลาปิ้ง อย่าทุบแม้แต่ไข่สักหนึ่งฟอง เมื่อทำบุญเสร็จ อุทิศส่วนกุศลให้เฉพาะคนที่ตาย ไม่ให้ใครทั้งหมด ถ้าทำอย่างนี้ละท่านพวกนี้จะมีความสุข ได้รับผลบุญทันที มีความผ่องใส มีความอิ่มเอิบเมื่อเข้าถึงอายุขัย เมื่อใดก็เป็นอันว่าพวกนี้จะไปถึงด้านของสวรรค์ก่อน
สำหรับท่านอายุวัฒนะกุมารนั้น ปรากฏว่าเมื่อพ้นจากตอนนั้นมาแล้ว ถึงเวลาอายุ ๗ ขวบท่านก็เป็นสามเณร บวชเณร แล้วก็ได้อรหัตผลอยู่มาได้อายุ ๑๒๐ ปี ตรงตามที่องค์สมเด็จพระมหามุนีทรงตรัส
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553
การฟัง 3 มิติช่วยให้เข้าใจผู้พูดอย่างลึกซึ้ง
- ฟังเพื่อรับรู้เนื้อหาสาระจากคำพูดของผู้พูด
- ฟังเพื่อรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของผู้พูดที่ซ่อนอยู่ขณะที่พูด
- ฟังเพื่อรับรู้ความตั้งใจที่แท้จริงของผู้พูดที่อาจไม่แสดงออกชัดเจนขณะที่พูด
วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2553
3R และวิธีการประหยัดพลังงาน
3R คือ Waste hierarchy ซึ่งประกอบด้วย Reduce, Reuse, Recycle (+Recovery, Disposal)
วิธีการประหยัดพลังงาน
1.อย่าใช้กระดาษหน้าเดียวทิ้ง ให้ใช้กระดาษอย่างคุ้มค่าใช้ทั้งสองหน้า
2.ในสำนักงานให้ใช้การส่งเอกสารต่อๆกัน แทนการสำเนาเอกสารหลายๆ ชุด เพื่อประหยัดกระดาษ ประหยัดพลังงาน
3.ใช้การส่งผ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยโมเด็ม หรือแผ่นดิสก์ แทนการส่งข่าวสารข้อมูลโดยกระดาษเพราะช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ลดการใช้พลังงานได้มาก
4. รู้จักแยกแยะประเภทขยะ เพื่อช่วยลดขั้นตอน และลดพลังงานในการทำลายขยะ และทำให้ขยะทั้งหลายง่ายต่อการกำจัด
5.ขึ้นลงชั้นเดียวหรือสองชั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ลิฟท์ จำไว้เสมอว่าการกดลิฟท์แต่ละครั้ง สูญเสียพลังงานถึง 7 บาท
6.งด เลิก บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งเลย เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิต ใช้ทรัพยากรธรรมชาติสิ้นเปลือง เพิ่มปริมาณขยะ เปลืองพลังงานในการกำจัดขยะ
7.ลดการใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ยากต่อการทำลาย เช่น โฟม หรือพลาสติก ควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reuse) หรือนำไปผ่านกระบวนการผลิตมาใช้ใหม่ได้ (Recycle)
8.สนับสนุนสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ เป็นวัสดุที่สามารถนำมาผ่านกระบวนการนำมาใช้ใหม่ (Recycle) เช่น แก้ว กระดาษ โลหะ พลาสติกบางประเภท โดยจัดให้มีการแยกขยะในครัวเรือนและในสำนักงาน
9.ให้ความร่วมมือ สนับสนุน หรือเข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่รณรงค์ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์พลังงาน
10. กระตุ้นเตือนให้ผู้อื่นช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยการติดสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายให้ช่วยประหยัดไฟ ตรงบริเวณใกล้สวิทช์ไฟ เพื่อเตือนให้ปิดเมื่อเลิกใช้แล้ว
วิธีการประหยัดพลังงาน
1.อย่าใช้กระดาษหน้าเดียวทิ้ง ให้ใช้กระดาษอย่างคุ้มค่าใช้ทั้งสองหน้า
2.ในสำนักงานให้ใช้การส่งเอกสารต่อๆกัน แทนการสำเนาเอกสารหลายๆ ชุด เพื่อประหยัดกระดาษ ประหยัดพลังงาน
3.ใช้การส่งผ่านข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยโมเด็ม หรือแผ่นดิสก์ แทนการส่งข่าวสารข้อมูลโดยกระดาษเพราะช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ลดการใช้พลังงานได้มาก
4. รู้จักแยกแยะประเภทขยะ เพื่อช่วยลดขั้นตอน และลดพลังงานในการทำลายขยะ และทำให้ขยะทั้งหลายง่ายต่อการกำจัด
5.ขึ้นลงชั้นเดียวหรือสองชั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ลิฟท์ จำไว้เสมอว่าการกดลิฟท์แต่ละครั้ง สูญเสียพลังงานถึง 7 บาท
6.งด เลิก บริโภคผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้งเลย เพราะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิต ใช้ทรัพยากรธรรมชาติสิ้นเปลือง เพิ่มปริมาณขยะ เปลืองพลังงานในการกำจัดขยะ
7.ลดการใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีบรรจุภัณฑ์ที่ยากต่อการทำลาย เช่น โฟม หรือพลาสติก ควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reuse) หรือนำไปผ่านกระบวนการผลิตมาใช้ใหม่ได้ (Recycle)
8.สนับสนุนสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ เป็นวัสดุที่สามารถนำมาผ่านกระบวนการนำมาใช้ใหม่ (Recycle) เช่น แก้ว กระดาษ โลหะ พลาสติกบางประเภท โดยจัดให้มีการแยกขยะในครัวเรือนและในสำนักงาน
9.ให้ความร่วมมือ สนับสนุน หรือเข้าร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่รณรงค์ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์พลังงาน
10. กระตุ้นเตือนให้ผู้อื่นช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยการติดสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายให้ช่วยประหยัดไฟ ตรงบริเวณใกล้สวิทช์ไฟ เพื่อเตือนให้ปิดเมื่อเลิกใช้แล้ว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)